นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวว่า หวังว่าพรรคการเมืองจะทบทวนท่าทีด้วยการร่วมเสนอความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับที่จำเป็นต่อการปฏิรูปการเมือง เพื่อให้ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญทุกฉบับ สามารถเป็นเครื่องมือที่ปฏิบัติได้จริงทและปฏิรูปได้ผล
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า ทุกพรรคการเมืองผ่านประสบการณ์ตรง และรู้จุดอ่อนของระบบการเมืองมากว่า 80 ปี ซึ่ง กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง จะได้นำไปประกอบการจัดทำ และพิจารณาพ.ร.ป.ทุกฉบับต่อไป
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ประเทศกำลังเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง จึงต้องการความร่วมมือของทุกฝ่าย การปฏิรูปต้องมีการเปลี่ยนแปลง ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองของกรธ. ยังเป็นเพียงร่างที่สามารถปรับปรุงแก้ไขได้ ซึ่งการที่พรรคการเมืองเห็นตรงกันหรือเห็นต่างกัน เป็นเรื่องธรรมดา
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญคือสัญญานของความร่วมมือในการปฏิรูปประเทศ วันนี้จึงไม่ใช่เวลาของการเกี่ยงงอนหรือตั้งแง่ แต่เป็นเวลาของการช่วยกันคิดช่วยกันทำเพื่อประโยชน์ของประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคการเมืองได้ให้ความร่วมมืออย่างดีในการจัดทำแผนปฏิรูปการเมืองมาโดยตลอด
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า ทุกพรรคการเมืองผ่านประสบการณ์ตรง และรู้จุดอ่อนของระบบการเมืองมากว่า 80 ปี ซึ่ง กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง จะได้นำไปประกอบการจัดทำ และพิจารณาพ.ร.ป.ทุกฉบับต่อไป
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ประเทศกำลังเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง จึงต้องการความร่วมมือของทุกฝ่าย การปฏิรูปต้องมีการเปลี่ยนแปลง ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองของกรธ. ยังเป็นเพียงร่างที่สามารถปรับปรุงแก้ไขได้ ซึ่งการที่พรรคการเมืองเห็นตรงกันหรือเห็นต่างกัน เป็นเรื่องธรรมดา
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญคือสัญญานของความร่วมมือในการปฏิรูปประเทศ วันนี้จึงไม่ใช่เวลาของการเกี่ยงงอนหรือตั้งแง่ แต่เป็นเวลาของการช่วยกันคิดช่วยกันทำเพื่อประโยชน์ของประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคการเมืองได้ให้ความร่วมมืออย่างดีในการจัดทำแผนปฏิรูปการเมืองมาโดยตลอด