นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวถึงนายฟิเดล คาสโตร อดีตผู้นำปฏิวัติคิวบา ที่เพิ่งถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่าเป็นจอมเผด็จการผู้โหดร้าย
โดยนายทรัมป์ ออกแถลงการณ์ระบุว่า นายฟิเดล คาสโตร กดขี่ประชาชนของเขาเองมาเกือบ 60 ปี สิ่งที่นายคาสโตร เหลือทิ้งไว้คือกองทหาร การลักขโมย ความทุกข์ทรมาน ความยากเข็ญ และการปฏิเสธสิทธิมนุษยชน
นายทรัมป์ ระบุว่า ในขณะที่คิวบายังคงเป็นประเทศเผด็จการ แต่นับเป็นความหวังที่ความน่ากลัวที่เผชิญมาอย่างยาวนานได้ผ่านพ้นไปแล้ว ประชาชนชาวคิวบาจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีเสรีและมีความร่ำรวยอย่างที่สมควรได้รับเสียที
อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์ ไม่ได้กล่าวถึงนโยบายของประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐฯ ซึ่งใช้เวลามากกว่า 2 ปี ในการยุติความเป็นศัตรูระหว่างสหรัฐฯ กับคิวบาที่ยาวนานมากกว่า 50 ปี นายทรัมป์ ระบุแต่เพียงว่า รัฐบาลของเขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ชาวคิวบาได้มีความยั่งยืนและเสรีภาพ
โดยนายทรัมป์ ออกแถลงการณ์ระบุว่า นายฟิเดล คาสโตร กดขี่ประชาชนของเขาเองมาเกือบ 60 ปี สิ่งที่นายคาสโตร เหลือทิ้งไว้คือกองทหาร การลักขโมย ความทุกข์ทรมาน ความยากเข็ญ และการปฏิเสธสิทธิมนุษยชน
นายทรัมป์ ระบุว่า ในขณะที่คิวบายังคงเป็นประเทศเผด็จการ แต่นับเป็นความหวังที่ความน่ากลัวที่เผชิญมาอย่างยาวนานได้ผ่านพ้นไปแล้ว ประชาชนชาวคิวบาจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีเสรีและมีความร่ำรวยอย่างที่สมควรได้รับเสียที
อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์ ไม่ได้กล่าวถึงนโยบายของประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐฯ ซึ่งใช้เวลามากกว่า 2 ปี ในการยุติความเป็นศัตรูระหว่างสหรัฐฯ กับคิวบาที่ยาวนานมากกว่า 50 ปี นายทรัมป์ ระบุแต่เพียงว่า รัฐบาลของเขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ชาวคิวบาได้มีความยั่งยืนและเสรีภาพ