เมื่อเวลา 08.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำคณะรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ และข้าราชการภายในทำเนียบรัฐบาล ร่วมจัดกิจกรรม "รวมพลังแห่งความภักดี" เนื่องในโอกาสวันคล้าย วันพระบรมราชสมภพปีที่ 89 ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดย นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี และข้าราชการได้ร่วมร้องเพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณแสดงความจงรักภักดี ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิลอดุลยเดช ความว่า "ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอนำประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า และทุกภาคส่วน ซึ่งชุมนุมกันอยู่ ณ ที่นี้ ถวายสัตย์ปฏิญาณเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อแสดงความจงรักภักดี และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ปกเกล้าปกกระหม่อมให้ความร่มเย็นเป็นสุขแก่พสกนิกรชาวไทย อีกทั้งทรงบันดาลให้เกิดการพัฒนาประเทศในทุกด้านตลอดมาเป็นเวลาถึง 70 ปี แม้บัดนี้จะเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว แต่ก็ยังทรงสถิตอยู่ในใจของปวงประชาชาวไทยด้วยความวิปโยคอาลัยอย่างไม่มีวันลืมเลือน
ณ วาระนี้ ซึ่งปกติเคยเปล่งสัจวาจาถวายพระพรชัยมงคลเสมอมา จึงขอตั้งสัตยาธิษฐานถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นเครื่องบูชาพระมหากรุณาธิคุณแทนด้วยข้อความดังต่อไปนี้
ข้าพระพุทธเจ้าจะซื่อตรงจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ในพระบรมราชจักรีวงศ์จนกว่าชีวิตจะหาไม่
ข้าพระพุทธเจ้าจะปฏิบัติตามหน้าที่พลเมือง เคารพกฎหมาย รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างสมดุลและยั่งยืน ทั้งจะร่วมกันปฏิรูปประเทศ และสนับสนุนให้มีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ปกครองประเทศด้วยหลักนิติธรรมและธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์สุขแห่งประชาชนชาวไทย
ข้าพระพุทธเจ้าจะเป็นคนดี มีคุณธรรม ร่วมกันนำพาประเทศชาติไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน สงบสันติสุข จะรู้รักสามัคคีเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชนตลอดไป ข้าพระพุทธเจ้าขอปวารณาตัวว่า จะพัฒนาตนเอง เพิ่มการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อเป็นพลังที่ยั่งยืนในการพัฒนาประเทศต่อไป
ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายสัจวาจาว่า จะประพฤติปฏิบัติตามรอยพระยุคลบาท และศาสตร์ของพระราชาผู้ทรงธรรม น้อมนำพระราชดำรัส ดำเนินตามพระราชกรณียกิจ และเชิญพระราชคุณธรรมจรรยามาเป็นแนวทางการดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้วยความเพียรอันบริสุทธิ์ เพื่อสืบสานพระบรมราชปณิธาน เพื่อความสุข ความเจริญของปวงข้าพระพุทธเจ้า และเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนของราชอาณาจักรไทยสืบไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"
ณ วาระนี้ ซึ่งปกติเคยเปล่งสัจวาจาถวายพระพรชัยมงคลเสมอมา จึงขอตั้งสัตยาธิษฐานถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นเครื่องบูชาพระมหากรุณาธิคุณแทนด้วยข้อความดังต่อไปนี้
ข้าพระพุทธเจ้าจะซื่อตรงจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ในพระบรมราชจักรีวงศ์จนกว่าชีวิตจะหาไม่
ข้าพระพุทธเจ้าจะปฏิบัติตามหน้าที่พลเมือง เคารพกฎหมาย รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างสมดุลและยั่งยืน ทั้งจะร่วมกันปฏิรูปประเทศ และสนับสนุนให้มีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ปกครองประเทศด้วยหลักนิติธรรมและธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์สุขแห่งประชาชนชาวไทย
ข้าพระพุทธเจ้าจะเป็นคนดี มีคุณธรรม ร่วมกันนำพาประเทศชาติไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน สงบสันติสุข จะรู้รักสามัคคีเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชนตลอดไป ข้าพระพุทธเจ้าขอปวารณาตัวว่า จะพัฒนาตนเอง เพิ่มการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อเป็นพลังที่ยั่งยืนในการพัฒนาประเทศต่อไป
ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายสัจวาจาว่า จะประพฤติปฏิบัติตามรอยพระยุคลบาท และศาสตร์ของพระราชาผู้ทรงธรรม น้อมนำพระราชดำรัส ดำเนินตามพระราชกรณียกิจ และเชิญพระราชคุณธรรมจรรยามาเป็นแนวทางการดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้วยความเพียรอันบริสุทธิ์ เพื่อสืบสานพระบรมราชปณิธาน เพื่อความสุข ความเจริญของปวงข้าพระพุทธเจ้า และเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนของราชอาณาจักรไทยสืบไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ"