บรรยากาศการถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่เวลา 05.00 น.วันนี้ (9 พ.ย.) อันเป็นวันที่ 12 ของการถวายสักการะพระบรมศพ ยังคงเนืองแน่นไปด้วยพสกนิกรชาวไทยผู้จงรักภักดี มีประชาชนแต่งกายด้วยชุดสีดำไว้ทุกข์เดินทางมารอต่อแถวกันอย่างเป็นระเบียบตั้งแต่เช้าตรู่
นางเกสร หาญภาณุศรี วัย 70 ปี เดินทางมาจาก จ.จันทบุรี พร้อมกับลูกสะใภ้ กล่าวว่า เดินทางจากถึงสนามหลวงตั้งแต่ตี 4 ถึงจะรอนานหน่อยแต่ก็ไม่เหนื่อย เพราะเตรียมความพร้อมมาอย่างดี ทั้งยังเตรียมยาแก้หอบหืดซื่งเป็นโรคประจำตัวมาด้วย
"ที่ผ่านมาติดตามพระราชกรณียกิจของพระองค์ทุกวัน ได้เห็นและรับรู้ว่าพระองค์ทรงเหนื่อยเพื่อคนไทยมาตลอด ได้มากราบพระองค์ท่านวันนี้ดีใจมากๆ ตั้งจิตอธิษฐานขอให้พระองค์ท่านไปสบายที่สุดไม่ต้องเป็นห่วงประชาชน ส่วนลูกที่อยู่ข้างหลังจะน้อมนำแนวพระราชดำริของพ่อมาใช้อย่างในเรื่องประหยัด มัธยัสถ์ ใช้มาโดยตลอด หรืออย่างลูกสะใภ้ก็ปลูกสวนผสมตามคำแนะนำที่พ่อสอนให้ลูกหลายๆ อย่างในที่ดิน ซึ่งมีทั้งมังคุด กล้วย ยาง" นางเกสร กล่าวด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
ด้าน น.ส.สุนันท์ ทยานานุภัทร์ วัย 70 ปี มาพร้อมกับน้องสาว น.ส.อภิฐา บอกว่า เดินทางมาจากบ้านตั้งแต่ตี 5 โดยเตรียมความพร้อมทั้งร่ม หมวก น้ำ ขนมมาพร้อม รวมทั้งรถเข็นก็นำมาจากบ้าน โดยมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือเป็นระยะ
"ตอนขึ้นไปกราบพระองค์ท่าน เราขอพรจากพระองค์ท่านและขอให้พระองค์ท่านเสร็จสู่สวรรคาลัย ที่ผ่านมายังได้น้อมนำพระองค์ท่านมาเป็นแบบอย่างในเรื่องของความใจเย็น เราเห็นพระองค์ท่านเป็นถึงกษัตริย์ยังใจเย็น เราก็ต้องพยายามปรับตัวให้ดีขึ้น ใจเย็นขึ้น และจะต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีด้วย" สองพี่น้องเล่าด้วยสีหน้าซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ
นางเกสร หาญภาณุศรี วัย 70 ปี เดินทางมาจาก จ.จันทบุรี พร้อมกับลูกสะใภ้ กล่าวว่า เดินทางจากถึงสนามหลวงตั้งแต่ตี 4 ถึงจะรอนานหน่อยแต่ก็ไม่เหนื่อย เพราะเตรียมความพร้อมมาอย่างดี ทั้งยังเตรียมยาแก้หอบหืดซื่งเป็นโรคประจำตัวมาด้วย
"ที่ผ่านมาติดตามพระราชกรณียกิจของพระองค์ทุกวัน ได้เห็นและรับรู้ว่าพระองค์ทรงเหนื่อยเพื่อคนไทยมาตลอด ได้มากราบพระองค์ท่านวันนี้ดีใจมากๆ ตั้งจิตอธิษฐานขอให้พระองค์ท่านไปสบายที่สุดไม่ต้องเป็นห่วงประชาชน ส่วนลูกที่อยู่ข้างหลังจะน้อมนำแนวพระราชดำริของพ่อมาใช้อย่างในเรื่องประหยัด มัธยัสถ์ ใช้มาโดยตลอด หรืออย่างลูกสะใภ้ก็ปลูกสวนผสมตามคำแนะนำที่พ่อสอนให้ลูกหลายๆ อย่างในที่ดิน ซึ่งมีทั้งมังคุด กล้วย ยาง" นางเกสร กล่าวด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
ด้าน น.ส.สุนันท์ ทยานานุภัทร์ วัย 70 ปี มาพร้อมกับน้องสาว น.ส.อภิฐา บอกว่า เดินทางมาจากบ้านตั้งแต่ตี 5 โดยเตรียมความพร้อมทั้งร่ม หมวก น้ำ ขนมมาพร้อม รวมทั้งรถเข็นก็นำมาจากบ้าน โดยมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือเป็นระยะ
"ตอนขึ้นไปกราบพระองค์ท่าน เราขอพรจากพระองค์ท่านและขอให้พระองค์ท่านเสร็จสู่สวรรคาลัย ที่ผ่านมายังได้น้อมนำพระองค์ท่านมาเป็นแบบอย่างในเรื่องของความใจเย็น เราเห็นพระองค์ท่านเป็นถึงกษัตริย์ยังใจเย็น เราก็ต้องพยายามปรับตัวให้ดีขึ้น ใจเย็นขึ้น และจะต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีด้วย" สองพี่น้องเล่าด้วยสีหน้าซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ
