นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวก่อนการประชุมมอบนโยบายข้อราชการและแนวทางการขับเคลื่อนงานสำคัญตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจของกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกประชาชนนในต่างจังหวัดที่จะเข้ามาถวายบังคมพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม เป็นต้นไป ว่ากระทรวงมหาดไทยได้กำหนดประชาชนออกเป็น 4 ภาค รวม วันละ 3,000 คน เฉลี่ยจังหวัดละ 750 คน เรียงตามอักษร ก.–ฮ. โดยรอบแรก วันที่ 29 ตุลาคมนี้ จะประกอบด้วย จังหวัดกระบี่ จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดกาฬสินธุ์ และ จังหวัดกาญจนบุรี เบื้องต้นสำนักพระราชวังแจ้งว่าจะเปิดให้ประชาชนเข้าไปถวายบังคับพระบรมศพ ได้ประมาณวันละ 8,000 - 10,000 คน ซึ่งในส่วนของกระทรวงมหาดไทยประเมินว่า 100 วันแรกที่เปิดโอกาสให้ประชาชนต่างจังหวัดเข้ามา จะมีจำนวนกว่า 225,000 คน
นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า ตนยืนยันว่ากระทรวงมหาดไทยไม่ได้จำกัดสิทธิบุคคลใด แต่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีสิทธิ ซึ่งได้ย้ำกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่าอย่าคัดเลือกเฉพาะข้าราชการหรือญาติพี่น้องของตนเอง ทั้งนี้หากสำนักพระราชวังขยายวันให้ประชาชนเข้าถวายบังคมพระบรมศพเพิ่มขึ้น ทางกระทรวงมหาดไทยก็จะขยายเวลาเช่นเดียวกัน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ต้องกำชับประชาชนเรื่องการแต่งกาย โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องสวมกระโปรงหรือผ้าถุงยาวเท่านั้น ส่วนคนที่มีโรคประจำตัวก็ต้องพกยามาด้วย อย่างไรก็ตามบนรถบัสที่นำประชาชนมายังสนามหลวงจะมีเจ้าหน้าที่แพทย์คอยดูแลเรื่องสุขภาพ สำหรับขบวนรถของแต่ละจังหวัดจะมี 15 คัน เบื้องต้นมีการกำหนดจุดพักคอยไว้ 2 จุดสำคัญ คือ ภาคใต้ จะพักคอยที่พุทธมณฑลสาย 4 ส่วนภาคเหนือและอีสานจะพักคอยที่อิมแพ็คเมืองทองธานี เพื่อรอการประสานให้ทยอยเข้ามาทีละขบวนเพื่อป้องกันปัญหาการจราจรติดขัด ยืนยันว่าประชาชนที่เดินมาทางมากับกระทรวงมหาดไทย จะไม่ได้รับสิทธิพิเศษใด ๆ เพราะเมื่อมาถึงสนามหลวงทั้งหมดก็จะต้องเข้าคิวรับบัตรเหมือนประชาชนทั่วไป
นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า ตนยืนยันว่ากระทรวงมหาดไทยไม่ได้จำกัดสิทธิบุคคลใด แต่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีสิทธิ ซึ่งได้ย้ำกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่าอย่าคัดเลือกเฉพาะข้าราชการหรือญาติพี่น้องของตนเอง ทั้งนี้หากสำนักพระราชวังขยายวันให้ประชาชนเข้าถวายบังคมพระบรมศพเพิ่มขึ้น ทางกระทรวงมหาดไทยก็จะขยายเวลาเช่นเดียวกัน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ต้องกำชับประชาชนเรื่องการแต่งกาย โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องสวมกระโปรงหรือผ้าถุงยาวเท่านั้น ส่วนคนที่มีโรคประจำตัวก็ต้องพกยามาด้วย อย่างไรก็ตามบนรถบัสที่นำประชาชนมายังสนามหลวงจะมีเจ้าหน้าที่แพทย์คอยดูแลเรื่องสุขภาพ สำหรับขบวนรถของแต่ละจังหวัดจะมี 15 คัน เบื้องต้นมีการกำหนดจุดพักคอยไว้ 2 จุดสำคัญ คือ ภาคใต้ จะพักคอยที่พุทธมณฑลสาย 4 ส่วนภาคเหนือและอีสานจะพักคอยที่อิมแพ็คเมืองทองธานี เพื่อรอการประสานให้ทยอยเข้ามาทีละขบวนเพื่อป้องกันปัญหาการจราจรติดขัด ยืนยันว่าประชาชนที่เดินมาทางมากับกระทรวงมหาดไทย จะไม่ได้รับสิทธิพิเศษใด ๆ เพราะเมื่อมาถึงสนามหลวงทั้งหมดก็จะต้องเข้าคิวรับบัตรเหมือนประชาชนทั่วไป
