องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) เตือนว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจทำให้คนอีก 122 ล้านคน กลายเป็นคนยากจนข้นแค้น ภายในปี 2573 โดยส่วนใหญ่อยู่ในเอเชียใต้และแอฟริกา
รายงานประจำปีของเอฟเอโอเตือนว่า ในกรณีเลวร้ายที่สุดชุมชนที่ยังชีพด้วยการเกษตรจะได้รับความเดือดร้อนมากที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดังนั้น ระบบการเกษตรและการผลิตอาหารจะต้องปรับเปลี่ยนในวงกว้างให้เข้ากับโลกที่ร้อนขึ้น และจะต้องลดการสนับสนุนครอบครัวเกษตรกรรายย่อย 475 ล้านครอบครัวทั่วโลกลงครึ่งหนึ่ง เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะทำให้การเพาะปลูกกลายเป็นเรื่องที่ยากแก่การคาดการณ์ การเกษตรเป็นทั้งสาเหตุที่ทำให้โลกร้อน เพราะปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 21 ของการปล่อยทั้งโลก และเป็นทั้งเหยื่อของน้ำท่วมและภัยแล้งที่เกิดจากโลกร้อน
ทั้งนี้ เอฟเอโอแนะให้ทำการเกษตรอย่างชาญฉลาด เช่น ปลูกพืชที่ดูดซึมปุ๋ยไนโตรเจนอย่างมีประสิทธิภาพ ปลูกพืชที่ทนอากาศร้อน มีวิธีใช้น้ำอย่างประหยัด
รายงานของเอฟเอโอระบุว่า หากยังไม่มีการปรับเปลี่ยนใดๆ โลกจะมีคนยากจนเพิ่มขึ้น 35-122 ล้านคน ภายในปี 2573 และในกรณีที่เลวร้ายที่สุดเอเชียใต้และแอฟริกาจะมีคนยากจนเพิ่มขึ้น 62 ล้านคน และ 43 ล้านตามลำดับ ขอให้ประเทศที่ลงนามในข้อตกลงปารีสปี 2558 ภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ยูเอ็นเอฟซีซีซี) เร่งดำเนินการตามที่รับปากไว้ โดยเฉพาะการช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการสนับสนุนด้านนวัตกรรมและเงินทุน
รายงานประจำปีของเอฟเอโอเตือนว่า ในกรณีเลวร้ายที่สุดชุมชนที่ยังชีพด้วยการเกษตรจะได้รับความเดือดร้อนมากที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดังนั้น ระบบการเกษตรและการผลิตอาหารจะต้องปรับเปลี่ยนในวงกว้างให้เข้ากับโลกที่ร้อนขึ้น และจะต้องลดการสนับสนุนครอบครัวเกษตรกรรายย่อย 475 ล้านครอบครัวทั่วโลกลงครึ่งหนึ่ง เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะทำให้การเพาะปลูกกลายเป็นเรื่องที่ยากแก่การคาดการณ์ การเกษตรเป็นทั้งสาเหตุที่ทำให้โลกร้อน เพราะปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 21 ของการปล่อยทั้งโลก และเป็นทั้งเหยื่อของน้ำท่วมและภัยแล้งที่เกิดจากโลกร้อน
ทั้งนี้ เอฟเอโอแนะให้ทำการเกษตรอย่างชาญฉลาด เช่น ปลูกพืชที่ดูดซึมปุ๋ยไนโตรเจนอย่างมีประสิทธิภาพ ปลูกพืชที่ทนอากาศร้อน มีวิธีใช้น้ำอย่างประหยัด
รายงานของเอฟเอโอระบุว่า หากยังไม่มีการปรับเปลี่ยนใดๆ โลกจะมีคนยากจนเพิ่มขึ้น 35-122 ล้านคน ภายในปี 2573 และในกรณีที่เลวร้ายที่สุดเอเชียใต้และแอฟริกาจะมีคนยากจนเพิ่มขึ้น 62 ล้านคน และ 43 ล้านตามลำดับ ขอให้ประเทศที่ลงนามในข้อตกลงปารีสปี 2558 ภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ยูเอ็นเอฟซีซีซี) เร่งดำเนินการตามที่รับปากไว้ โดยเฉพาะการช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการสนับสนุนด้านนวัตกรรมและเงินทุน