วันนี้ (15 ต.ค.) เวลา 13.00 น. ตามที่สำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนชาวไทยได้ลงนามถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวังตั้งแต่เวลา 12.00 น.ถึง 16.30 น.นั้น โดยตั้งแต่เวลา 11.30 น.ก่อนที่สำนักพระราชวังจะเปิดให้เข้าลงนามถวายความอาลัย ประชาชนที่มาปักหลักตั้งแต่เช้าต่างดีใจที่จะได้มีโอกาสเข้ามลงนามถวายความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย
โดยบรรยากาศของการลงนามเป็นไปด้วยความโศกเศร้า บางคนน้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลา บางคนยังรับต่อการสูญเสียในครั้งนี้ไม่ได้
นายสุพจน์ ช่อแก้ว อายุ 44 ปี จากจังหวัดแม่ฮ่องสอน ชายพิการไร้แขนและขา กล่าวว่า เป็นคนไม่ได้ดูข่าวมากนัก จึงไม่ทราบแถลงการณ์พระอาการประชวร จนกระทั่งพระองค์สวรรคตจึงได้เห็นจากประกาศฉบับสุดท้าย ตอนนั้นไปขายของอยู่จังหวัดสกลนคร จึงรีบนั่งรถกลับเข้ากรุงเทพฯ แต่ก็ไม่ทันเคลื่อนขบวน ได้แต่มาเฝ้ารอที่หน้าประตูวังเผื่อจะมีโอกาสได้เข้า แล้วเจ้าหน้าที่ก็เปิดให้เข้าครั้งสุดท้ายจริงๆ แม้จะลำบากนำรถเข้าไม่ได้ก็ตาม เพราะถือเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ส่งความในใจถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ที่ทรงทำทุกอย่างเพื่อคนไทยตลอดมา
โดยบรรยากาศของการลงนามเป็นไปด้วยความโศกเศร้า บางคนน้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลา บางคนยังรับต่อการสูญเสียในครั้งนี้ไม่ได้
นายสุพจน์ ช่อแก้ว อายุ 44 ปี จากจังหวัดแม่ฮ่องสอน ชายพิการไร้แขนและขา กล่าวว่า เป็นคนไม่ได้ดูข่าวมากนัก จึงไม่ทราบแถลงการณ์พระอาการประชวร จนกระทั่งพระองค์สวรรคตจึงได้เห็นจากประกาศฉบับสุดท้าย ตอนนั้นไปขายของอยู่จังหวัดสกลนคร จึงรีบนั่งรถกลับเข้ากรุงเทพฯ แต่ก็ไม่ทันเคลื่อนขบวน ได้แต่มาเฝ้ารอที่หน้าประตูวังเผื่อจะมีโอกาสได้เข้า แล้วเจ้าหน้าที่ก็เปิดให้เข้าครั้งสุดท้ายจริงๆ แม้จะลำบากนำรถเข้าไม่ได้ก็ตาม เพราะถือเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ส่งความในใจถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ที่ทรงทำทุกอย่างเพื่อคนไทยตลอดมา