นางฉวีวรรณ อุนพงศ์ถาวร ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตบางเขน กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูฝนเมื่อฝนตกจะมีน้ำขัง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายส่งผลให้สถานการณ์โรคไข้เลือดออกระบาดอย่างต่อเนื่อง และทุกๆ ปีจะมีผู้ป่วยโดยเฉพาะทารก หรือเด็กเล็กเสียชีวิตจากโรคร้ายนี้ไปไม่น้อย เขตฯ จึงได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์แจกเอกสารความรู้ และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ฉีดพ่นสารเคมีกำจัดยุง สัตว์และแมลงนำโรค เช่น หนู แมลงวัน แมลงสาบ และได้ให้คำแนะนำดังนี้ 1.ภาชนะที่เก็บน้ำเพื่อบริโภคและอุปโภคในชีวิตประจำวัน เช่น โอ่งน้ำกินน้ำใช้โดยการใช้ทรายอะเบทปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 10 ปิ๊บ (1 ปิ๊บ =20 ลิตร) เนื่องจากทรายอะเบทเป็นทรายที่เคลือบยาฆ่าลูกน้ำ แต่ไม่มีอันตรายต่อคนโดยยาที่เคลือบอยู่จะค่อยๆ ละลายออกมามีฤทธิ์อยู่นาน 3 เดือน
ดังนั้นจึงต้องเติมทรายอะเบททุกๆ 3 เดือน 2.ขาตู้กับข้าวมักจะใส่น้ำทิ้งไว้ เพื่อกันมดไต่ขาตู้ ควรเปลี่ยนมาใส่ขี้เถ้าที่เกิดจากถ่านหรือฟืน หรือใส่น้ำมันขี้โล้ ซึ่งนอกจากจะไม่ต้องคอยเติมน้ำแล้วยังกันมดได้ดี และยุงลายไม่ลงไปไข่ 3.แจกันดอกไม้ควรถ่ายน้ำทิ้งทุกๆ 7 วัน 4.ภาชนะที่มีน้ำขังอื่นๆ เช่น ยางรถยนต์ กระป๋อง ถัง หรือขวดพลาสติก ใช้วิธีขุดหลุมฝังหรือเก็บใส่ถุงดำนำไปทิ้ง
ดังนั้นจึงต้องเติมทรายอะเบททุกๆ 3 เดือน 2.ขาตู้กับข้าวมักจะใส่น้ำทิ้งไว้ เพื่อกันมดไต่ขาตู้ ควรเปลี่ยนมาใส่ขี้เถ้าที่เกิดจากถ่านหรือฟืน หรือใส่น้ำมันขี้โล้ ซึ่งนอกจากจะไม่ต้องคอยเติมน้ำแล้วยังกันมดได้ดี และยุงลายไม่ลงไปไข่ 3.แจกันดอกไม้ควรถ่ายน้ำทิ้งทุกๆ 7 วัน 4.ภาชนะที่มีน้ำขังอื่นๆ เช่น ยางรถยนต์ กระป๋อง ถัง หรือขวดพลาสติก ใช้วิธีขุดหลุมฝังหรือเก็บใส่ถุงดำนำไปทิ้ง