กษ.พร้อมหนุนภารกิจกองทุนฟื้นฟูฯ เพิ่มความเข้มเกณฑ์แก้หนี้ปี 60

นายสุรจิตต์ อินทรชิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กล่าวระหว่างเป็นประธานประชุมโครงการติดตามตรวจเยี่ยมองค์กรเกษตรกรที่ได้รับการชำระหนี้แทน ของคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ที่ศูนย์เรียนรู้กลุ่มบ้านลอนสามัคคี ต.โคกสัก อ.บางแก้ว จ.พัทลุง ว่า ปัญหาการทำเกษตรสาเคมีและภัยธรรมชาติเป็นปัจจัยหนึ่งในการนำเกษตรกรเข้าสู่วงจรหนี้ ซึ่งบทบาทของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรในการรับซื้อหนี้และฟื้นฟูอาชีพเป็นส่วนสำคัญในการรักษาที่ดินของเกษตรกร โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมให้การสนับสนุน ขอให้คณะกรรมการจัดการหนี้ได้ทำข้อสรุปและข้อเสนอที่ได้จากการลงพื้นที่ติดตามตรวจเยี่ยมองค์กรเกษตรกรทั่วประเทศรายงานต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อร่วมกันผลักดันแนวทางการแก้ปัญหาหนี้สินให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน

ทางด้านนายละม้าย เสนขวัญแก้ว ประธานคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร กล่าวว่า นโยบายของคณะกรรมการจัดการหนี้ชุดปัจจุบันจะมีความเข้มงวดมากขึ้น โดยจะสรุปบทเรียนความสำเร็จและล้มเหลวของเกษตรกรที่ได้รับการจัดการหนี้เพื่อนำไปสู่การแก้ไขในระดับนโยบายรัฐ อาทิ การมุ่งเน้นจัดการหนี้ โดยสมาชิกจะต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูอาชีพด้วย การเตรียมจำแนกกลุ่มหนี้ที่มีอยู่ทั้งหมด โดยยอมรับว่ามีความเป็นห่วงข้อเรียกร้องของสมาชิกในบางพื้นที่ซึ่งเรียกร้องสิทธิที่เกินไปกว่าภาระของกองทุนฟื้นฟูฯ โดยเฉพาะ หนี้ที่ไม่ได้เกิดจากการกู้เพื่อวัตถุประสงค์เกษตรกรรม ซึ่งมีอยู่กว่าหมื่นล้านบาท ทำให้หนี้ที่เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ต้องได้รับผลกระทบเกิดความล่าช้าไปด้วย