นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมสรรพากรได้สั่งเจ้าหน้าที่ตั้งทีมเฉพาะกิจ เพื่อศึกษาถึงการจัดเก็บภาษีจากบริษัทผู้ให้บริการผ่านออนไลน์และโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทั้งไทยและต่างชาติ เช่น กูเกิล เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม แอปพลิเคชั่นไอโชว์ หรือบีโกไลฟ์ เพราะถือเป็นนิติบุคคลที่เปิดให้บริการในประเทศไทยและมีผู้ใช้จำนวนมาก เมื่อมีรายได้ก็ต้องนำสู่ระบบเสียภาษีให้ถูกต้อง โดยภาษีดังกล่าวมีหลายประเทศดำเนินการและจัดเก็บอยู่ เช่น อินโดนีเซีย อังกฤษ และออสเตรเลีย เป็นต้น
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีหลายประเทศจัดเก็บภาษีส่วนนี้ โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย ที่เก็บภาษีจากบริษัท กูเกิล เนื่องจากมีการจัดตั้งสำนักงานที่ชัดเจน ขณะที่ประเทศไทยส่วนใหญ่จะเปิดให้บริการเท่านั้น แต่ไม่ได้จัดตั้งสำนักงาน ทำให้กรมสรรพากรต้องพิจารณาในข้อกฎหมายเพื่อจัดเก็บภาษีดังกล่าว เบื้องต้นหากติดขัดเรื่องกฎหมาย กรมสรรพากรก็จะเสนอกระทรวงการคลังพิจารณาแก้ไขพระราชบัญญัติ ให้ใช้บทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร เพื่อเปิดทางให้บริษัทผู้ให้บริการผ่านออนไลน์และโซเชียลเน็ตเวิร์กเข้าสู่ระบบภาษีให้ถูกต้อง
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีหลายประเทศจัดเก็บภาษีส่วนนี้ โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย ที่เก็บภาษีจากบริษัท กูเกิล เนื่องจากมีการจัดตั้งสำนักงานที่ชัดเจน ขณะที่ประเทศไทยส่วนใหญ่จะเปิดให้บริการเท่านั้น แต่ไม่ได้จัดตั้งสำนักงาน ทำให้กรมสรรพากรต้องพิจารณาในข้อกฎหมายเพื่อจัดเก็บภาษีดังกล่าว เบื้องต้นหากติดขัดเรื่องกฎหมาย กรมสรรพากรก็จะเสนอกระทรวงการคลังพิจารณาแก้ไขพระราชบัญญัติ ให้ใช้บทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร เพื่อเปิดทางให้บริษัทผู้ให้บริการผ่านออนไลน์และโซเชียลเน็ตเวิร์กเข้าสู่ระบบภาษีให้ถูกต้อง