นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) ครั้งที่ 17 (CoP17) ณ นครโจฮันเนสเบิร์ก สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ นำโดย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะคณะผู้แทนไทย ระหว่างวันที่ 23 กันยายน ถึง 5 ตุลาคม 2559 ประเทศไทยจะเสนอขอให้เปลี่ยนคำอธิบายแนบท้ายข้อกำหนดไม้พะยูงที่อยู่ในบัญชีหมายเลข 2 ของไซเตส จากเดิมที่ควบคุมเฉพาะไม้ซุงพะยูง มาเป็นให้ครอบคลุมทุกส่วนของไม้พะยูงที่มีการค้าระหว่างประเทศ เช่น ไม้แผ่น เฟอร์นิเจอร์แปรรูปทุกรูปแบบ เพื่อแก้ปัญหาลักลอบตัดไม้พะยูงออกนอกประเทศ ที่ยังคงมีปริมาณมาก พร้อมกันนี้ ไทยจะรายงานความก้าวหน้าแผนปฏิบัติการค้างาช้างแห่งชาติ หลังจากไทยมีการออกกฎหมาย และบังคับใช้พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. 2558 และให้ผู้ครอบครองมาขึ้นทะเบียนงาช้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างการควบคุมช้างบ้าน 3,500 เชือก ให้เข้ามาอยู่ในระบบที่ตรวจสอบได้ เพื่อปิดตลาดการค้างาช้างผิดกฎหมายจนทำให้ไทยถูกเสนอให้อยู่ในกลุ่มใหม่ จากเดิมที่เคยมีสถานภาพน่ากังวล กลายมาเป็นกลุ่มที่มีสถานภาพน่ากังวลในระดับรอง