นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การใช้มาตรการสำรวจ และกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม หรือช่วงก่อนการระบาดของโรคไข้เลือดออกถึงเดือนเมษายน เพื่อกำจัดจำนวนลูกน้ำยุงลาย และยุงลายตัวแก่ โดยประชาชนร่วมมือกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ในบ้าน ด้วยมาตรการ 3 เก็บ 3 โรค ทั้งในบ้าน ในชุมชน เช่น โรงเรียน วัด โรงงาน และโรงแรมทุก 7 วัน อย่างจริงจังในทุกภาคส่วน ข้อมูลจากสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลงพบว่า ทำให้ค่าดัชนีลูกน้ำยุงลายมีค่าลดต่ำลง แต่เมื่อเริ่มเข้าฤดูฝนในเดือนพฤษภาคม ค่าดัชนีลูกน้ำยุงลายเพิ่มขึ้น เนื่องจากพื้นที่ต่างๆ ได้รับผลกระทบจากฝนตกชุก ทำให้เพิ่มปริมาณภาชนะขังน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย แต่เมื่อกระตุ้นให้มีการรณรงค์ กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ให้มากขึ้น ค่าดัชนีลูกน้ำก็กลับมาลดลง แสดงให้เห็นว่า การรณรงค์กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำนั้น มีความสำคัญมาก เพราะยุงลายเป็นพาหะของ 3 โรค คือโรคไข้เลือดออก ไข้ซิกาและไข้ปวดข้อยุงลาย
นอกจากนี้ ผลสำรวจของสำนักระบาดวิทยาพบว่า ผลการรณรงค์มาตรการ 3 เก็บ 3 โรค ทำให้สถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกลดต่ำลง ซึ่งในปี 2559 จำนวนผู้ป่วยจะต้องมากกว่าในปีที่ผ่านมา แต่กลับพบว่าจำนวนผู้ป่วยในปี 2559 น้อยกว่าผู้ป่วยในปี 58 ประมาณ 50% และแนวโน้มของโรคเริ่มลดลง โดยขอความร่วมมือประชาชนร่วมมือร่วมใจกำจัดลูกน้ำยุงลายในบ้านพัก และชุมชนของตนเอง ร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขที่จะร่วมกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในชุมชน เพื่อป้องกันทั้งโรคที่มียุงลายเป็นพาหะได้ทั้งโรคไข้เลือดออกไข้ซิกา และไข้ปวดข้อยุงลาย
นอกจากนี้ ผลสำรวจของสำนักระบาดวิทยาพบว่า ผลการรณรงค์มาตรการ 3 เก็บ 3 โรค ทำให้สถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกลดต่ำลง ซึ่งในปี 2559 จำนวนผู้ป่วยจะต้องมากกว่าในปีที่ผ่านมา แต่กลับพบว่าจำนวนผู้ป่วยในปี 2559 น้อยกว่าผู้ป่วยในปี 58 ประมาณ 50% และแนวโน้มของโรคเริ่มลดลง โดยขอความร่วมมือประชาชนร่วมมือร่วมใจกำจัดลูกน้ำยุงลายในบ้านพัก และชุมชนของตนเอง ร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขที่จะร่วมกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในชุมชน เพื่อป้องกันทั้งโรคที่มียุงลายเป็นพาหะได้ทั้งโรคไข้เลือดออกไข้ซิกา และไข้ปวดข้อยุงลาย