นายสมชาย เจริญอำนวยสุข อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวันที่ 15ก.ย.ที่ผ่านมา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกคำสั่งฉบับที่ 58 เรื่องการรับบริการสาธารณสุขของคนพิการ ตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม โดยระบุว่าคนพิการที่อยู่ในระบบการทำงาน ใช้สิทธิรักษา พยาบาลของประกันสังคมในฐานะผู้ประกันตน สามารถกลับมาใช้สิทธิบัตรทองได้แบบเดิม โดยไม่ขาดสิทธิใดสิทธิหนึ่งนั้น นับเป็นข่าวดีของคนพิการเพราะเดิมคนพิการทุกคนที่ไม่ได้เข้าสู่ระบบการทำงาน จะได้รับสิทธิการรักษาในระบบบัตรทอง ตามหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งรักษาทุกโรคทุก โรงพยาบาลสังกัดของรัฐฟรี แต่คนกลุ่มนี้เมื่อเข้าสู่ระบบการทำงาน ตามนโยบายของรัฐบาล ทำให้ต้องเปลี่ยนสิทธิการรักษาพยาบาล อยู่ในระบบประกันสังคม ที่ต้องเข้ารับบริการในโรงพยาบาลที่กำหนดเท่านั้น
ขณะเดียวกันมีบางโรคที่ไม่ครอบคลุม ทำให้แรงงานคนพิการได้รับผล กระทบอย่างหนัก เนื่องจากต้องเดินทางไกลเพื่อไปใช้บริการที่ รพ.ตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด อีกทั้งโรคที่เคยรักษาฟรีก็มีค่าใช้จ่าย ดังนั้น เมื่อมีคำสั่ง คสช.นี้มา คนพิการซึ่งปัจจุบันมีกว่า 35,000 คน ที่อยู่ในระบบการทำงาน และอีกกว่า 10,000 คนที่กำลังเข้าสู่ระบบ สามารถเลือก ใช้สิทธิการรักษาพยาบาลได้ทั้งประกันสังคม และบัตรทอง ได้ตามความต้องการ แต่ต้องเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่สามารถใช้พร้อมกันได้ทั้ง 2 สิทธิต่อการเข้ารับบริการ 1 ครั้ง ได้นับตั้งแต่วันที่มีประกาศนี้
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) คสช.ได้สั่งให้กระทรวงการคลังเป็นผู้กำหนด ทั้งรูปแบบ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขอื่นๆ ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน โดยยืนยันประกาศนี้ ไม่มีใคร หน่วยงานไหน เสียประโยชน์หรือรับภาระเพิ่มแน่นอน
ทั้งนี้ หากเนื้อหาประกาศดังกล่าวมีบางหลักเกณฑ์ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีสามารถเสนอ คสช.ปรับเปลี่ยนคำสั่งได้ เพื่อให้คนพิการได้รับประโยชน์สูงสุด
ขณะเดียวกันมีบางโรคที่ไม่ครอบคลุม ทำให้แรงงานคนพิการได้รับผล กระทบอย่างหนัก เนื่องจากต้องเดินทางไกลเพื่อไปใช้บริการที่ รพ.ตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด อีกทั้งโรคที่เคยรักษาฟรีก็มีค่าใช้จ่าย ดังนั้น เมื่อมีคำสั่ง คสช.นี้มา คนพิการซึ่งปัจจุบันมีกว่า 35,000 คน ที่อยู่ในระบบการทำงาน และอีกกว่า 10,000 คนที่กำลังเข้าสู่ระบบ สามารถเลือก ใช้สิทธิการรักษาพยาบาลได้ทั้งประกันสังคม และบัตรทอง ได้ตามความต้องการ แต่ต้องเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่สามารถใช้พร้อมกันได้ทั้ง 2 สิทธิต่อการเข้ารับบริการ 1 ครั้ง ได้นับตั้งแต่วันที่มีประกาศนี้
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) คสช.ได้สั่งให้กระทรวงการคลังเป็นผู้กำหนด ทั้งรูปแบบ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขอื่นๆ ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน โดยยืนยันประกาศนี้ ไม่มีใคร หน่วยงานไหน เสียประโยชน์หรือรับภาระเพิ่มแน่นอน
ทั้งนี้ หากเนื้อหาประกาศดังกล่าวมีบางหลักเกณฑ์ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีสามารถเสนอ คสช.ปรับเปลี่ยนคำสั่งได้ เพื่อให้คนพิการได้รับประโยชน์สูงสุด