พบผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาพื้นที่ กทม. 22 คน- เฝ้าดูอาการต่อเนื่อง 1 เดือน

นายเมธิพจน์ ชาตะเมธีกุล ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสซิกาในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ขณะนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาพื้นที่กรุงเทพฯ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 22 ราย โดยผู้ติดเชื้ออยู่ในพื้นที่เขตสาทรทั้งหมด ซึ่งการติดเชื้อในพื้นที่ดังกล่าว เกิดจากผู้ติดเชื้อได้รับเชื้อมาจากต่างประเทศ จึงทำให้มีการแพร่ระบาดต่อเนื่อง โดยผู้ติดเชื้อทั้งหมดนั้น มีอาการป่วยไม่รุนแรง แต่ยังต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องไปเป็นเวลา 30 วัน ส่วนหญิงตั้งครรภ์ ที่มีการติดเชื้อไวรัสซิกา 1 ราย จะต้องเฝ้าติดตามอาการแม่และเด็กต่อเนื่องไปเช่นกัน  
ทั้งนี้การเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสซิกานั้น กทม.ได้กำหนดพื้นที่เฝ้าระวังในพื้นที่เขตสาทร และเขตพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งต้องมีการตรวจสอบอาการของผู้ต้องสงสัยคือผู้ที่ใกล้ชิด หรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ จำนวนรวมกว่า 30ราย ซึ่ง กทม.ได้ทำการตรวจเลือดหาการติดเชื้อดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งต้องตรวจสอบผู้ที่มีโอกาสติดเชื้ออื่นๆ ในพื้นที่อยู่อาศัย และที่ทำงานของผู้ติดเชื้อเนื่องจากอาจมีการแพร่ระบาดในพื้นที่ดังกล่าวได้ 
          ทั้งนี้ไวรัสซิกา ผู้ติดเชื้อจะมีอาการป่วยแต่ไม่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต แต่หากผู้ติดเชื้อเป็นหญิงตั้งครรภ์ เชื้อไวรัสดังกล่าวจะส่งผลต่อเด็กในครรภ์ ทำให้เกิดภาวะสมองพิการ ดังนั้นในพื้นที่พบเชื้อ กทม.จะต้องตรวจหาหญิงมีครรภ์ทั้งหมด เพื่อดูแลและเฝ้าระวังโรคอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง 1 เดือน โดยหากในระยะเวลา 1 เดือน ในพื้นที่เกิดโรคคือ พื้นที่เขตสาทร และพื้นที่ใกล้เคียง ไม่ปรากฏผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาเพิ่มเติมอีก จะถือเป็นพื้นที่ปลอดภัย  
สำหรับไวรัสซิกา เกิดจากยุงลายเป็นพาหนะนำโรค ดังนั้น กทม.จะเข้าพื้นที่ฉีดพ้น ทำการกำจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุง และขอความร่วมมือให้ประชาชน ร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุง ไม่ให้เกิดพื้นที่้น้ำขัง และหากประชาชนมีอาการป่วย มีผื่นแดงขึ้นตามตัว ไข้ขึ้นสูง เยื่อบุตาอักเสบ ปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อ รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว และปวดหัวจะต้องรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการโดยเร็ว