พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ร่วมกันแถลงการหารือการประชุมประจำปี ครั้งที่ 6 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พอใจผลการประชุมครั้งนี้ และขอขอบคุณมาเลเซียที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยสันติสุขและเสริมสร้างความเข้าใจ พร้อมทั้งเห็นชอบตรงกันเกี่ยวกับความร่วมมือด้านความมั่นคง แลกเปลี่ยนข่าวกรอง ป้องกันการก่อการร้าย แนวคิดสุดโต่ง อาชญากรรมข้ามชาติ และลักลอบเข้าเมืองผิดกฏหมาย โดยเฉพาะความร่วมมือการสร้างสันติสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ รวมทั้งเห็นตรงกันจะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้ได้ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2561 การพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ชายแดนภาคใต้ และการวางศิลาฤกษ์สร้างสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก 2 แห่ง ที่เชื่อมโยงจังหวัดนราธิวาสกับรัฐกลันตัน การเปิดด่านศุลกากรบ้านประกอบ - ดุเรียนบุหรง และการเร่งรัดเขตเศรษฐกิจพิเศษระหว่างไทยและมาเลเซีย ที่ อ.สะเดา จ.สงขลา และ จ.นราธิวาส กับ ซูปิง วาเล่ย์ รัฐปะลิส
ขณะเดียวกัน จะสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางหาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ - อิโปห์ และยินดีกับข้อเสนอของมาเลเซียในการสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงกัวลาลัมเปอร์ - สิงคโปร์ พร้อมกันนี้ มาเลเซียจะมีความร่วมมือ และสนับสนุนการใช้ยางพาราอย่างครบวงจร เพราะเป็นผู้มีประสบการณ์ และขอขอบคุณมาเลเซียที่จะช่วยดูแลเรื่องบุคคล 2 สัญชาติ
ขณะที่ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ยืนยันว่า จะเป็นผู้อำนวยความสะดวกต่อไป และเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นเรื่องภายในประเทศ โดยมาเลเซียพร้อมจะปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลไทย และช่วยเหลือเรื่องการศึกษาด้านสามัญและศาสนา ที่สำคัญการประชุมครั้งนี้ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการนิคมอุตสาหกรรมยางพาราสงขลา และนิคมอุตสาหกรรมยางพาราโกตาปุตรา ระหว่างการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ บริษัท เทรดวินส์ แพลนชั่น เบอร์หาด
ขณะเดียวกัน จะสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางหาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ - อิโปห์ และยินดีกับข้อเสนอของมาเลเซียในการสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงกัวลาลัมเปอร์ - สิงคโปร์ พร้อมกันนี้ มาเลเซียจะมีความร่วมมือ และสนับสนุนการใช้ยางพาราอย่างครบวงจร เพราะเป็นผู้มีประสบการณ์ และขอขอบคุณมาเลเซียที่จะช่วยดูแลเรื่องบุคคล 2 สัญชาติ
ขณะที่ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ยืนยันว่า จะเป็นผู้อำนวยความสะดวกต่อไป และเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นเรื่องภายในประเทศ โดยมาเลเซียพร้อมจะปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลไทย และช่วยเหลือเรื่องการศึกษาด้านสามัญและศาสนา ที่สำคัญการประชุมครั้งนี้ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการนิคมอุตสาหกรรมยางพาราสงขลา และนิคมอุตสาหกรรมยางพาราโกตาปุตรา ระหว่างการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ บริษัท เทรดวินส์ แพลนชั่น เบอร์หาด