พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเหตุระเบิดรถไฟที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ล่าสุด ว่า การข่าวมีการแจ้งเตือนก่อนเกิดเหตุแล้ว แต่เฝ้าระวังไม่ทัน เนื่องจากมีการแจ้งเตือนในเวลาที่กระชั้นชิด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับการพูดคุยสันติสุขกับกลุ่มมาราปาตานี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุแล้ว
ทั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องมีการปรับปรุงด้านการข่าว และขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็ได้เตรียมมาตรการเฝ้าระวังการก่อเหตุในช่วงเทศกาลฮารีรายอในสัปดาห์หน้าไว้แล้ว ขออย่าคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้า เพราะเจ้าหน้าที่ได้เตรียมพร้อมป้องกันอย่างเต็มที่แล้ว
ส่วนเหตุระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ เป็นฝีมือคนในขบวนการก่อความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อต้องการหวังผลสร้างความปั่นป่วน ความไม่เข้าใจ ให้เกิดความหวาดกลัว ไม่ใช่การขยายพื้นที่ความรุนแรงจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ขณะที่การเดินทางเยือนประเทศไทยของนายนาจิบ ราซะก์ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในวันศุกร์ที่ 9 กันยายนนี้ จะไม่มีการหยิบยกเอาเหตุการณ์ความวุ่นวายล่าสุดมาหารือ แต่จะเป็นการหารือเรื่องความร่วมมือทั่วไป รวมถึงการลงนามข้อตกลงว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับบุคคล 2 สัญชาติ รวมอยู่ด้วย
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการไม่ให้นำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องของสิทธิมนุษยชน ว่า เป็นการคำนึงถึงสิทธิของผู้ต้องหา และต้องการทำให้เป็นมาตรฐานสากล ส่วนการปิดบังใบหน้าผู้ต้องหาในการแถลงข่าวนั้น ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ต้องหา และทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการบังคับให้ต้องแถลงข่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องมีการปรับปรุงด้านการข่าว และขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็ได้เตรียมมาตรการเฝ้าระวังการก่อเหตุในช่วงเทศกาลฮารีรายอในสัปดาห์หน้าไว้แล้ว ขออย่าคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้า เพราะเจ้าหน้าที่ได้เตรียมพร้อมป้องกันอย่างเต็มที่แล้ว
ส่วนเหตุระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ เป็นฝีมือคนในขบวนการก่อความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อต้องการหวังผลสร้างความปั่นป่วน ความไม่เข้าใจ ให้เกิดความหวาดกลัว ไม่ใช่การขยายพื้นที่ความรุนแรงจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ขณะที่การเดินทางเยือนประเทศไทยของนายนาจิบ ราซะก์ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในวันศุกร์ที่ 9 กันยายนนี้ จะไม่มีการหยิบยกเอาเหตุการณ์ความวุ่นวายล่าสุดมาหารือ แต่จะเป็นการหารือเรื่องความร่วมมือทั่วไป รวมถึงการลงนามข้อตกลงว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับบุคคล 2 สัญชาติ รวมอยู่ด้วย
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการไม่ให้นำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องของสิทธิมนุษยชน ว่า เป็นการคำนึงถึงสิทธิของผู้ต้องหา และต้องการทำให้เป็นมาตรฐานสากล ส่วนการปิดบังใบหน้าผู้ต้องหาในการแถลงข่าวนั้น ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ต้องหา และทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการบังคับให้ต้องแถลงข่าวแต่อย่างใด