นางอำไพ จันทร์หอม มารดานายนราวุฒิ พวงเกษร อายุ 26 ปี บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่เสียชีวิตบริเวณขึ้นไปบนพระบรมบรรพต หรือภูเขาทอง ภายในวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา เข้าพบ พล.ต.ทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เมื่อวานนี้ (29 ส.ค.) ที่ สน.สำราญราษฎร์ เพื่อให้ปากคำหาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย
นางอำไพระบุว่า ต้องการทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าลูกชายเสียชีวิตเพราะเหตุใด โดยยอมรับติดใจเรื่องบาดแผลที่พบบนใบหน้า และอวัยวะที่บอบช้ำ แต่หากตำรวจสืบสวนได้ผลออกมาเป็นอย่างไรก็พร้อมที่จะยอมรับ แต่ยังไม่เชื่อว่าลูกชายจะฆ่าตัวตาย เนื่องจากครอบครัวไม่เคยมีปัญหากัน และหลังจากนี้จะมอบโทรศัพท์มือถือของลูกชายให้ตำรวจตรวจสอบ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการหาเหตุจูงใจครั้งนี้
ขณะที่ พล.ต.ท.ศานิตย์เปิดเผยว่า ยังไม่สรุปว่านายนราวุฒิเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย หรือถูกฆาตกรรม เนื่องจากต้องรอผลตรวจลายนิ้วมือแฝง ดีเอ็นเอ และสารพิษที่ตกค้างในร่างของผู้ตายก่อน คาดว่าประมาณ 2 สัปดาห์ น่าจะทราบผล นอกจากนี้ได้สั่งให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในวัดเพิ่มเติมอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เปิดเผยว่า จากพยานหลักฐานและการจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของนายนราวุฒิ ที่ลานพักทางลงภูเขาทอง วัดสระเกศ มีความเป็นไปได้ที่ผู้เสียชีวิตอาจฆ่าตัวตาย เพราะจากกล้องวงจรปิด 3 ตัว บริเวณจุดเกิดเหตุ จับภาพนายนราวุฒิ ขณะเดินขึ้นภูเขาทอง แสดงอากัปกิริยาคล้ายกับคนปลงชีวิต และเดินจงกรมเป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 03.17 น.ถึง 04.02 น. ของวันที่ 21 สิงหาคม
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์ได้สั่งให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังก่อนเที่ยงคืนวันที่ 20 สิงหาคม เพื่อตรวจสอบว่ามีบุคคลอื่นเข้าไปจุดเกิดเหตุหรือไม่ เนื่องจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนถึงรุ่งเช้า พบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุคนเดียว อย่างไรก็ตาม ได้ตั้งสาเหตุการเสียชีวิตไว้ 2 ประเด็น คือ ฆ่าตัวตาย หรือถูกกระทำให้ตาย จนกว่าจะได้ผลตรวจจากแพทย์นิติเวช และพยานหลักฐานชี้ชัด จึงจะสรุปสาเหตุที่แท้จริงได้
ส่วนเพื่อนของนายนราวุฒิที่เข้าให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่าไม่เชื่อว่าเพื่อนจะฆ่าตัวตาย แต่ยอมรับว่าเพื่อนชอบเข้าวัดทำบุญ และก่อนเสียชีวิตเพียง 1 สัปดาห์ นายนราวุฒิโพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับการขอพรก่อนตาย
นางอำไพระบุว่า ต้องการทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าลูกชายเสียชีวิตเพราะเหตุใด โดยยอมรับติดใจเรื่องบาดแผลที่พบบนใบหน้า และอวัยวะที่บอบช้ำ แต่หากตำรวจสืบสวนได้ผลออกมาเป็นอย่างไรก็พร้อมที่จะยอมรับ แต่ยังไม่เชื่อว่าลูกชายจะฆ่าตัวตาย เนื่องจากครอบครัวไม่เคยมีปัญหากัน และหลังจากนี้จะมอบโทรศัพท์มือถือของลูกชายให้ตำรวจตรวจสอบ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการหาเหตุจูงใจครั้งนี้
ขณะที่ พล.ต.ท.ศานิตย์เปิดเผยว่า ยังไม่สรุปว่านายนราวุฒิเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย หรือถูกฆาตกรรม เนื่องจากต้องรอผลตรวจลายนิ้วมือแฝง ดีเอ็นเอ และสารพิษที่ตกค้างในร่างของผู้ตายก่อน คาดว่าประมาณ 2 สัปดาห์ น่าจะทราบผล นอกจากนี้ได้สั่งให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในวัดเพิ่มเติมอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เปิดเผยว่า จากพยานหลักฐานและการจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของนายนราวุฒิ ที่ลานพักทางลงภูเขาทอง วัดสระเกศ มีความเป็นไปได้ที่ผู้เสียชีวิตอาจฆ่าตัวตาย เพราะจากกล้องวงจรปิด 3 ตัว บริเวณจุดเกิดเหตุ จับภาพนายนราวุฒิ ขณะเดินขึ้นภูเขาทอง แสดงอากัปกิริยาคล้ายกับคนปลงชีวิต และเดินจงกรมเป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 03.17 น.ถึง 04.02 น. ของวันที่ 21 สิงหาคม
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์ได้สั่งให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังก่อนเที่ยงคืนวันที่ 20 สิงหาคม เพื่อตรวจสอบว่ามีบุคคลอื่นเข้าไปจุดเกิดเหตุหรือไม่ เนื่องจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนถึงรุ่งเช้า พบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุคนเดียว อย่างไรก็ตาม ได้ตั้งสาเหตุการเสียชีวิตไว้ 2 ประเด็น คือ ฆ่าตัวตาย หรือถูกกระทำให้ตาย จนกว่าจะได้ผลตรวจจากแพทย์นิติเวช และพยานหลักฐานชี้ชัด จึงจะสรุปสาเหตุที่แท้จริงได้
ส่วนเพื่อนของนายนราวุฒิที่เข้าให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่าไม่เชื่อว่าเพื่อนจะฆ่าตัวตาย แต่ยอมรับว่าเพื่อนชอบเข้าวัดทำบุญ และก่อนเสียชีวิตเพียง 1 สัปดาห์ นายนราวุฒิโพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับการขอพรก่อนตาย