นายปริญญา หอมอเนก ผู้เชี่ยวชาญระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่าย กล่าวว่า ภายหลังจากกรณีการแฮคเข้าระบบตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสิน ได้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อน โดยปรากฏเป็นกระแสในโซเชียลว่า การปล่อยมัลแวร์ไปติดที่ตู้เอทีเอ็ม เกิดจากการนำบัตรเอทีเอ็มไปเสียบใช้บริการกับตู้แล้วปล่อยมัลแวร์ไปติดที่ตู้ ทำให้เกิดการรีบูทเครื่องแล้วถอนเงินออกมานั้นไม่เป็นความจริง ไม่มีการติดมัลแวร์หรือไวรัสจากบัตรเอทีเอ็ม นอกจากนี้มีความพยายามระบุชื่อมัลแวร์ว่า มีชื่อเรียกแล้ว ขอยืนยันซ้ำว่าไม่เป็นความจริงด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้เพราะอยู่ระหว่างขั้นตอนสวบสวนในต่างประเทศ และยังไม่ได้ข้อสรุป จึงยังไม่มีการกำหนดชื่อมัลแวร์ดังกล่าว นอกจากนี้ การบุกรุกเข้าไปในตู้เอทีเอ็มได้ต้องรู้กลไกในการเปิดตู้โดยอาจจะมีกุญแจผี หรือรู้วิธีการเปิดตู้เอทีเอ็มหากยังไม่รู้กลไกจะไม่มีทางเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าไปเสียบตู้เอทีเอ็มได้
ทั้งนี้เพราะอยู่ระหว่างขั้นตอนสวบสวนในต่างประเทศ และยังไม่ได้ข้อสรุป จึงยังไม่มีการกำหนดชื่อมัลแวร์ดังกล่าว นอกจากนี้ การบุกรุกเข้าไปในตู้เอทีเอ็มได้ต้องรู้กลไกในการเปิดตู้โดยอาจจะมีกุญแจผี หรือรู้วิธีการเปิดตู้เอทีเอ็มหากยังไม่รู้กลไกจะไม่มีทางเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าไปเสียบตู้เอทีเอ็มได้
