พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเหตุคาร์บอมบ์และเหตุลอบวางระเบิดหลายจุด ในพื้นที่ จ.ปัตตานี แล้ว โดยได้สั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จากการสืบสวนขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด หรือจะเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนหรือไม่ ส่วนการก่อเหตุดังกล่าวจะเป็นการกดดันเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยให้เร่งเดินหน้าเปิดการพูดคุยสันติสุข กับกลุ่มมาราปาตานีหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ ขอหารือกับ พล.อ.อักษรา เกิดผล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ก่อน ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าการเจรจาจะต้องเดินหน้าต่อไป ทั้งที่เป็นทางการและในทางลับ แต่กลุ่มที่เคลื่อนไหวก็ต้องแสดงความจริงใจ ด้วยการยุติการก่อเหตุ เพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีในการเจรจา พร้อมยืนยันว่า ที่ผ่านมาฝ่ายความมั่นคงของไทยไม่เคยตกลงทำ TOR กับกลุ่มที่เคลื่อนไหวในพื้นที่แต่อย่างใด
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการคลี่คลายเหตุระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บูรณาการการทำงาน ซึ่งการสืบสวนมีความก้าวหน้าตามลำดับ มีการออกหมายจับ ตามภาพจากกล่องวงจรปิด ยืนยันเจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ ขออย่ากดดัน
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จากการสืบสวนขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด หรือจะเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนหรือไม่ ส่วนการก่อเหตุดังกล่าวจะเป็นการกดดันเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยให้เร่งเดินหน้าเปิดการพูดคุยสันติสุข กับกลุ่มมาราปาตานีหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ ขอหารือกับ พล.อ.อักษรา เกิดผล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ก่อน ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าการเจรจาจะต้องเดินหน้าต่อไป ทั้งที่เป็นทางการและในทางลับ แต่กลุ่มที่เคลื่อนไหวก็ต้องแสดงความจริงใจ ด้วยการยุติการก่อเหตุ เพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีในการเจรจา พร้อมยืนยันว่า ที่ผ่านมาฝ่ายความมั่นคงของไทยไม่เคยตกลงทำ TOR กับกลุ่มที่เคลื่อนไหวในพื้นที่แต่อย่างใด
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการคลี่คลายเหตุระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บูรณาการการทำงาน ซึ่งการสืบสวนมีความก้าวหน้าตามลำดับ มีการออกหมายจับ ตามภาพจากกล่องวงจรปิด ยืนยันเจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ ขออย่ากดดัน
