วันนี้ (23 ส.ค.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน พร้อมด้วย พล.ต.วิจารณ์ จดแตง ฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมด้วยหน่วยตรวจสอบเก็บกู้วัตถุระเบิดกองพิสูจน์หลักฐาน ผู้เชี่ยวชาญด้านการสเก็ตภาพกองทะเทียนประวัติอาชญากร และคณะทำงาน ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีระเบิด และวางเพลิงใน 7 จังหวัดภาคใต้
พล.ต.อ. ศรีวราห์ เปิดเผยก่อนออกเดินทางโดยเครื่องบินของกองบินตำรวจว่า จะเป็นการติดตามความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนผลนิติวิทยาศาสตร์ และการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งจะไปขอศาลทหาร มณฑลทหารบกที่ 41 จ.นครศรีธรรมราช ออกหมายจับนายศักรินทร์ หรือ เชษฐ์ คฤหัส ใน 3 ข้อหา คือ ร่วมกันครอบครองวัตถุระเบิดเพื่อการสงคราม ทำให้เกิดเหตุระเบิด และวางเพลิง โดยพยานหลักฐานยังมีอยู่เท่าเดิม แต่ผลพิสูจน์ทาง EOD ของเจ้าหน้าที่ EOD และกองพิสูจน์หลักฐานที่เพิ่งออกมาพบว่า เครื่องมือที่ใช้ก่อเหตุของนายศักรินทร์ เป็นวัตถุระเบิดชนิดแรงดันต่ำ จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ แล้วไปวางบนชั้นผ้าอนามัยของห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส จึงทำให้เกิดเพลิงไหม้ จึงต้องมีการถอนหมายจับจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช และขอหมายจับที่ศาลทหารใหม่อีกครั้ง
ส่วนนายศักรินทร์จะมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ กว่า 20 คน ที่พบว่ามีหลักฐานว่าเป็นกลุ่มก่อเหตุหรือไม่นั้น ยังไม่พบความเชื่อมโยง ซึ่งการออกหมายจับนายศักรินทร์ เป็นไปตามพยานหลักฐานเท่านั้น
ส่วนที่มีหลายฝ่ายลงพื้นที่ เพื่อไปชี้แจงต่อศาลทหารนั้น เป็นการเตรียมความพร้อม หากศาลต้องการไต่สวนถึงรายละเอียดคดี และหากมีหลักฐานเชื่อมโยงถึงใครจะได้สามารถดำเนินการออกหมายจับได้ทันที มั่นใจว่าพยานหลักฐานในคดีนี้ มีความคืบหน้ามากกว่าร้อยละ 50 และพอใจในการทำคดีของพนักงานสอบสวน ส่วนกรณีการจับกุมกลุ่มแนวร่วมปฏิวัติประชาธิปไตย (นปป.) ยืนยันว่าไม่มีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิด และวาดเพลิงใน 7 จังหวัดภาคใต้
พล.ต.อ. ศรีวราห์ เปิดเผยก่อนออกเดินทางโดยเครื่องบินของกองบินตำรวจว่า จะเป็นการติดตามความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนผลนิติวิทยาศาสตร์ และการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งจะไปขอศาลทหาร มณฑลทหารบกที่ 41 จ.นครศรีธรรมราช ออกหมายจับนายศักรินทร์ หรือ เชษฐ์ คฤหัส ใน 3 ข้อหา คือ ร่วมกันครอบครองวัตถุระเบิดเพื่อการสงคราม ทำให้เกิดเหตุระเบิด และวางเพลิง โดยพยานหลักฐานยังมีอยู่เท่าเดิม แต่ผลพิสูจน์ทาง EOD ของเจ้าหน้าที่ EOD และกองพิสูจน์หลักฐานที่เพิ่งออกมาพบว่า เครื่องมือที่ใช้ก่อเหตุของนายศักรินทร์ เป็นวัตถุระเบิดชนิดแรงดันต่ำ จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ แล้วไปวางบนชั้นผ้าอนามัยของห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส จึงทำให้เกิดเพลิงไหม้ จึงต้องมีการถอนหมายจับจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช และขอหมายจับที่ศาลทหารใหม่อีกครั้ง
ส่วนนายศักรินทร์จะมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ กว่า 20 คน ที่พบว่ามีหลักฐานว่าเป็นกลุ่มก่อเหตุหรือไม่นั้น ยังไม่พบความเชื่อมโยง ซึ่งการออกหมายจับนายศักรินทร์ เป็นไปตามพยานหลักฐานเท่านั้น
ส่วนที่มีหลายฝ่ายลงพื้นที่ เพื่อไปชี้แจงต่อศาลทหารนั้น เป็นการเตรียมความพร้อม หากศาลต้องการไต่สวนถึงรายละเอียดคดี และหากมีหลักฐานเชื่อมโยงถึงใครจะได้สามารถดำเนินการออกหมายจับได้ทันที มั่นใจว่าพยานหลักฐานในคดีนี้ มีความคืบหน้ามากกว่าร้อยละ 50 และพอใจในการทำคดีของพนักงานสอบสวน ส่วนกรณีการจับกุมกลุ่มแนวร่วมปฏิวัติประชาธิปไตย (นปป.) ยืนยันว่าไม่มีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิด และวาดเพลิงใน 7 จังหวัดภาคใต้