สำนักข่าวเอ็นเอชเคของญี่ปุ่น รายงานว่า ญี่ปุ่นจะติดตั้งระบบการตรวจจับวัตถุระเบิดรุ่นใหม่ไว้ประจำตามสนามบิน เพื่อเตรียมพร้อมด้านมาตรการรักษาความปลอดภัยก่อนที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิปิก และพาราลิมปิกเกมส์ ในอีก 4 ปีข้างหน้า
ระบบการตรวจจับวัตถุระเบิดใหม่นี้เป็นระบบตรวจจับวัตถุระเบิดอัตโนมัติในขณะผ่านเครื่องตรวจสอบกระเป๋าที่ผู้โดยสารถือขึ้นเครื่องบิน กระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นตัดสินใจติดตั้งระบบเพื่อเพิ่มการรักษาความปลอดภัยสนามบิน หลังเกิดเหตุก่อการร้ายโจมตีสนามบินในตุรกีและเบลเยียมไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากระบบการตรวจจับที่ใช้ในปัจจุบันจะสามารถสแกนภาพภายในกระเป๋าได้จากทิศทางด้านบนเท่านั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตรวจสอบใหม่ หากพบวัตถุต้องสงสัย แต่ระบบใหม่จะใช้การเอ็กซเรย์กระเป๋าจากทุกทิศทาง จนทำให้สามารถเห็นภาพด้านในกระเป๋าทุกมุมมองได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ระบบการตรวจจับวัตถุแปลกปลอมรุ่นใหม่นั้นมีราคาสูงมากกว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือมากกว่า 70 ล้านบาทต่อเครื่อง ทำให้ในระยะแรกนี้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องเลือกติดตั้งเป็นบางสนามบินเท่านั้น เช่น สนามบินนานาชาตินาริตะ สนามบินฮาเนดะ โดยจะมีการติดตั้งที่สนามบินฮาเนดะเป็นแห่งแรกในปีหน้า และตามแผนที่วางไว้จะมีการติดตั้งตามสนามบินสำคัญทั่วญี่ปุ่นให้ครบภายใน 4 ปี
ระบบการตรวจจับวัตถุระเบิดใหม่นี้เป็นระบบตรวจจับวัตถุระเบิดอัตโนมัติในขณะผ่านเครื่องตรวจสอบกระเป๋าที่ผู้โดยสารถือขึ้นเครื่องบิน กระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นตัดสินใจติดตั้งระบบเพื่อเพิ่มการรักษาความปลอดภัยสนามบิน หลังเกิดเหตุก่อการร้ายโจมตีสนามบินในตุรกีและเบลเยียมไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากระบบการตรวจจับที่ใช้ในปัจจุบันจะสามารถสแกนภาพภายในกระเป๋าได้จากทิศทางด้านบนเท่านั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตรวจสอบใหม่ หากพบวัตถุต้องสงสัย แต่ระบบใหม่จะใช้การเอ็กซเรย์กระเป๋าจากทุกทิศทาง จนทำให้สามารถเห็นภาพด้านในกระเป๋าทุกมุมมองได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ระบบการตรวจจับวัตถุแปลกปลอมรุ่นใหม่นั้นมีราคาสูงมากกว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือมากกว่า 70 ล้านบาทต่อเครื่อง ทำให้ในระยะแรกนี้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องเลือกติดตั้งเป็นบางสนามบินเท่านั้น เช่น สนามบินนานาชาตินาริตะ สนามบินฮาเนดะ โดยจะมีการติดตั้งที่สนามบินฮาเนดะเป็นแห่งแรกในปีหน้า และตามแผนที่วางไว้จะมีการติดตั้งตามสนามบินสำคัญทั่วญี่ปุ่นให้ครบภายใน 4 ปี