นายณรงค์ อินโส หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า หลังจากที่ฝนตกหนักในช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านเริ่มกลับสูงขึ้นอีกครั้ง และไหลเข้าท่วมพื้นที่เกษตรและบ้านเรือนของประชาชนบางส่วน นอกจากนั้นปริมาณน้ำที่ไหลมาค่อนข้างแรงประกอบกับช่วงที่ผ่านมีน้ำท่วมในพื้นที่ ทำให้ดินเกิดความชุ่มน้ำ ทำให้คอสะพานที่บ้านน้ำตวง เชื่อมต่อกับ บ้านสว่าง ต.หนองแดง อ.แม่จริม จ.น่านขาด ประชาชนไม่สามารถเดินทางผ่านเข้าออกบริเวณดังกล่าวได้ ขณะนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดน่านได้สั่งการให้เริ่มดำเนินการซ่อมแซมเพื่อให้ประสามารถสามารถเดินทางเข้าออกได้สะดวก ด้วยการนำสะพานแบริ่งเข้าไปใช้เป็นการชั่วคราว คาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันนี้ ส่วนสะพานที่ขาดจะดำเนินการแก้ไขซ่อมแซมต่อไป
สำหรับจุดที่เกิดดินสไลด์ บริเวณทางหลวงหมายเลข 1081 กิโลเมตรที่ 62.415 บ้านห้วยวิน ตำบลบ่อเกลือใต้ อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ระยะทางประมาณ 10 เมตร ปิดช่องทางการจราจร 1 ช่องทาง เมื่อช่วงเวลาประมาณ 08.30 น. ที่ผ่านมา ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการเปิดช่องทางจราจรได้ตามปกติแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางจัังหวัดได้ออกประกาศเตือนประชาชนอีกครั้งเพื่อให้เตรียมพร้อมรับน้ำท่วม และไม่ประมาท และให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดเตรียมพร้อมอยู่เสมอ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมไปแล้ว เนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำเริ่มเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วคาดว่าสถานการณ์จะเหมือนเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ชลประทานได้เร่งระบายน้ำอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด
สำหรับจุดที่เกิดดินสไลด์ บริเวณทางหลวงหมายเลข 1081 กิโลเมตรที่ 62.415 บ้านห้วยวิน ตำบลบ่อเกลือใต้ อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ระยะทางประมาณ 10 เมตร ปิดช่องทางการจราจร 1 ช่องทาง เมื่อช่วงเวลาประมาณ 08.30 น. ที่ผ่านมา ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการเปิดช่องทางจราจรได้ตามปกติแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางจัังหวัดได้ออกประกาศเตือนประชาชนอีกครั้งเพื่อให้เตรียมพร้อมรับน้ำท่วม และไม่ประมาท และให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดเตรียมพร้อมอยู่เสมอ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมไปแล้ว เนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำเริ่มเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วคาดว่าสถานการณ์จะเหมือนเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ชลประทานได้เร่งระบายน้ำอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด