นายปิติ แก้วสลับสี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เปิดเผยว่า ได้เตรียมความพร้อมรับมวลน้ำที่จะไหลมาจากจังหวัดแพร่ เท่าที่ได้รับรายงานนั้นมวลน้ำไม่เยอะมาก คาดว่าจะสามารถรับมือได้อย่างแน่นอน โดยได้มีการวางแผนไม่ปล่อยน้ำที่ไหลเข้ามาในพื้นที่ทิ้งไป แต่จะระบายเข้าไปกักเก็บไว้ตามอ่างเก็บน้ำและลำคลองของสุโขทัยให้ได้มากที่สุด เนื่องจากที่ผ่านมาสุโขทัยต้องประสบกับปัญหาภัยแล้งมา 2 ปี เชื่อว่ามวลน้ำที่จะไหลมาถึงในวันที่ 18 หรือ 19 นี้จะช่วยบรรเทาภัยแล้งของสุโขทัยไปได้บ้าง
สำหรับมวลน้ำที่จะไหลมาจากแพร่มีปริมาณ 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาสุโขทัยเคยรับน้ำได้สูงถึง 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนระดับน้ำที่จุดวัดระดับปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2 เมตร หากระดับน้ำสูงถึง 7.30 เมตร ถึงจะไหลเข้าท่วมสุโขทัย จึงเชื่อว่าปริมาณน้ำที่จะมาถึงนั้นน้อยมาก แต่อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ทุกอำเภอเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และให้รายงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะ อำเภอสวรรคโลก ศรีสำโรง เมือง และ อำเภอกงไกรลาส ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำท่วมได้ง่าย ให้เตรียมขนย้ายทรัพย์สินขึ้นไว้บนที่สูงเพื่อความไม่ประมาท นอกจากนั้นยังได้เตรียม big bag เนื่องจากบริเวณ 2 ฝั่งแม่น้ำยมได้มีการซ่อมแซมแนวป้องกันน้ำ
สำหรับมวลน้ำที่จะไหลมาจากแพร่มีปริมาณ 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาสุโขทัยเคยรับน้ำได้สูงถึง 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนระดับน้ำที่จุดวัดระดับปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2 เมตร หากระดับน้ำสูงถึง 7.30 เมตร ถึงจะไหลเข้าท่วมสุโขทัย จึงเชื่อว่าปริมาณน้ำที่จะมาถึงนั้นน้อยมาก แต่อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ทุกอำเภอเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และให้รายงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะ อำเภอสวรรคโลก ศรีสำโรง เมือง และ อำเภอกงไกรลาส ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำท่วมได้ง่าย ให้เตรียมขนย้ายทรัพย์สินขึ้นไว้บนที่สูงเพื่อความไม่ประมาท นอกจากนั้นยังได้เตรียม big bag เนื่องจากบริเวณ 2 ฝั่งแม่น้ำยมได้มีการซ่อมแซมแนวป้องกันน้ำ