สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 15 ส.ค.2559 ว่า ผู้พิพากษาจูน ชุง ของฮ่องกงมีคำพิพากษาโทษ แกนนำการชุมนุมประท้วง 3 ราย ได้แก่ โจชัว หว่อง, นาธาน ลอว์ และอเล็กซ์ โจว ที่ศาลพิพากษาเมื่อเดือนที่แล้วว่ามีความผิดฐานร่วมการชุมนุมอย่างผิดกฎหมาย และยุยงผู้อื่นเข้าร่วมการชุมนุมที่ศูนย์ราชการ "จัตุรัสพลเมือง" ของฮ่องกง เมื่อเดือน ก.ย.2557 ที่นักศึกษาพากันปีนรั้วเข้าไปภายใน ตามฐานความผิดนั้นทั้งหมดอาจถูกลงโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี
กระนั้น ผู้พิพากษาชุงกล่าวว่า เป็นเรื่องไม่ยุติธรรมหากท่านจะปล่อยให้บรรยากาศทางการเมืองมีอิทธิพลต่อการตัดสินลงโทษเพื่อป้องปราม
"ศาลเชื่อว่าคดีนี้แตกต่างจากคดีอาญาทั่วไป ศาลยอมรับว่าพวกเขาเพียงแสดงความคิดเห็นของพวกเขาอย่างแท้จริง" ผู้พิพากษาศาลแขวงตะวันออกของฮ่องกงกล่าวในคำตัดสิน และย้ำด้วยว่า จำเลยทั้ง 3 ไม่เคยถูกตัดสินความผิดคดีอาญามาก่อนหน้านี้, การกระทำของพวกเขาเกิดจากความห่วงใยประเด็นทางสังคมและความสนใจเกี่ยวกับการเมือง
หว่อง อดีตแกนนำนักเรียนวัย 19 ปี ถูกตัดสินทำงานบริการชุมชน 80 ชั่วโมง ชดใช้ความผิดฐานชุมนุมอย่างผิดกฎหมาย และลอว์ วัย 25 ปี ถูกตัดสินให้ทำงานบริการชุมชน 120 ชั่วโมง จากความผิดเดียวกัน ส่วนโจว ถูกตัดสินลงโทษจำคุก 3 สัปดาห์ แต่ให้รอลงอาญา ฐานยุยงปลุกปั่นให้ผู้อื่นเข้าร่วมการชุมนุม
หว่องกล่าวภายหลังทราบคำตัดสินว่า ศาลพิจารณาเห็นว่าขบวนการปฏิวัติร่มและการเข้าไปภายในจัตุรัสพลเมืองนั้นไม่ใช่การกระทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว แต่เป็นการทำเพื่อสาธารณะ
ส่วนลอว์กล่าวว่า คำตัดสินนี้แสดงให้เห็นว่าพวกตนทั้งสามทำไปเพื่อความยุติธรรม, เพื่อผลประโยชน์ของสังคมและเพื่อเสรีภาพพลเมืองของชาวฮ่องกง และผู้พิพากษาท่านนี้ได้ส่งสารแล้วว่า สิทธิดังกล่าวควรได้รับการเคารพ
แกนนำนักศึกษากลุ่มนี้เรียกร้องให้ดินแดนกึ่งปกครองตนเองของจีนแห่งนี้สามารถเลือกผู้นำของตนอย่างเสรี การจับกุมพวกเขาในเวลานั้นทำให้การขยายวงกว้างขึ้น ก่อนจะปะทุขึ้นเป็นความรุนแรงเมื่อตำรวจยิงแก๊สน้ำตาสลายฝูงชน จนผู้คนจำนวนมากร่วมการชุมนุมยึดครองหลายพื้นที่ของเกาะฮ่องกงจนเป็นอัมพาตนานกว่า 2 เดือน
ชื่อการปฏิวัติร่มได้มาจากการที่ผู้ชุมนุมใช้ร่มเป็นโล่กำบังตนเองจากสเปรย์พริกไทยและแก๊สน้ำตาของตำรวจ
อย่างไรก็ดี การเคลื่อนไหวครั้งนั้นยุติลงโดยไม่สามารถกดดันรัฐบาลจีนยอมอ่อนข้อหรือนำไปสู่ปฏิรูปการเมืองของฮ่องกงได้
กระนั้น ผู้พิพากษาชุงกล่าวว่า เป็นเรื่องไม่ยุติธรรมหากท่านจะปล่อยให้บรรยากาศทางการเมืองมีอิทธิพลต่อการตัดสินลงโทษเพื่อป้องปราม
"ศาลเชื่อว่าคดีนี้แตกต่างจากคดีอาญาทั่วไป ศาลยอมรับว่าพวกเขาเพียงแสดงความคิดเห็นของพวกเขาอย่างแท้จริง" ผู้พิพากษาศาลแขวงตะวันออกของฮ่องกงกล่าวในคำตัดสิน และย้ำด้วยว่า จำเลยทั้ง 3 ไม่เคยถูกตัดสินความผิดคดีอาญามาก่อนหน้านี้, การกระทำของพวกเขาเกิดจากความห่วงใยประเด็นทางสังคมและความสนใจเกี่ยวกับการเมือง
หว่อง อดีตแกนนำนักเรียนวัย 19 ปี ถูกตัดสินทำงานบริการชุมชน 80 ชั่วโมง ชดใช้ความผิดฐานชุมนุมอย่างผิดกฎหมาย และลอว์ วัย 25 ปี ถูกตัดสินให้ทำงานบริการชุมชน 120 ชั่วโมง จากความผิดเดียวกัน ส่วนโจว ถูกตัดสินลงโทษจำคุก 3 สัปดาห์ แต่ให้รอลงอาญา ฐานยุยงปลุกปั่นให้ผู้อื่นเข้าร่วมการชุมนุม
หว่องกล่าวภายหลังทราบคำตัดสินว่า ศาลพิจารณาเห็นว่าขบวนการปฏิวัติร่มและการเข้าไปภายในจัตุรัสพลเมืองนั้นไม่ใช่การกระทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว แต่เป็นการทำเพื่อสาธารณะ
ส่วนลอว์กล่าวว่า คำตัดสินนี้แสดงให้เห็นว่าพวกตนทั้งสามทำไปเพื่อความยุติธรรม, เพื่อผลประโยชน์ของสังคมและเพื่อเสรีภาพพลเมืองของชาวฮ่องกง และผู้พิพากษาท่านนี้ได้ส่งสารแล้วว่า สิทธิดังกล่าวควรได้รับการเคารพ
แกนนำนักศึกษากลุ่มนี้เรียกร้องให้ดินแดนกึ่งปกครองตนเองของจีนแห่งนี้สามารถเลือกผู้นำของตนอย่างเสรี การจับกุมพวกเขาในเวลานั้นทำให้การขยายวงกว้างขึ้น ก่อนจะปะทุขึ้นเป็นความรุนแรงเมื่อตำรวจยิงแก๊สน้ำตาสลายฝูงชน จนผู้คนจำนวนมากร่วมการชุมนุมยึดครองหลายพื้นที่ของเกาะฮ่องกงจนเป็นอัมพาตนานกว่า 2 เดือน
ชื่อการปฏิวัติร่มได้มาจากการที่ผู้ชุมนุมใช้ร่มเป็นโล่กำบังตนเองจากสเปรย์พริกไทยและแก๊สน้ำตาของตำรวจ
อย่างไรก็ดี การเคลื่อนไหวครั้งนั้นยุติลงโดยไม่สามารถกดดันรัฐบาลจีนยอมอ่อนข้อหรือนำไปสู่ปฏิรูปการเมืองของฮ่องกงได้