การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2016 ครั้งที่ 31 “รีโอเกมส์” ที่นครรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล ที่ผ่านครึ่งทางไปแล้วนั้น “บิ๊กอ๊อด” พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะรองประธานกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กล่าวว่า เห็นด้วยที่กองทุนฯ มีการเพิ่มเงินรางวัลนักกีฬาไทยที่ประสบความสำเร็จคว้าเหรียญจากกีฬาโอลิมปิกเกมส์ และพาราลิมปิกเกมส์ อีกเป็นจำนวน 20 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมที่ได้รับเหรียญทอง 10 ล้านบาท, เงิน 6 ล้าน, ทองแดง 4 ล้าน เพิ่มเป็นเหรียญทอง 12 ล้านบาท, เงิน 7.2 ล้าน และทองแดง 4.8 ล้าน ส่วนกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ เดิมได้รับเหรียญทอง 6 ล้านบาท, เงิน 4 ล้าน, ทองแดง 2.5 ล้าน เพิ่มเป็นเหรียญทอง 7.2 ล้านบาท, เงิน 4.8 ล้าน และทองแดง 3 ล้าน “อย่างไรก็ตาม อยากฝากเตือนไปยังนักกีฬาทุกคนว่า อยากให้วางแผนการบริหารจัดการเงินที่ได้รับจากรัฐบาลให้ดีๆ ให้สามารถเลี้ยงชีพต่อไปเมื่อยามเลิกเล่นได้ตลอดไป หลายคนพอมีชื่อเสียงแล้วใช้เงินแบบสุรุ่ยสุร่าย ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ที่กองทุนฯ ให้ จึงอยากเตือนว่าต้องรู้จักวางแผนการใช้เงิน”
นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เปิดเผยว่า กกท.กำลังประชุมเพื่อเตรียมการต้อนรับนักกีฬาแล้ว ขณะนี้ได้รับกำหนดวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีฉลองชัยให้แก่นักกีฬา คือวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยจะนัดหมายทุกสมาคมมารวมตัวที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก ในวันที่ 26 ส.ค. เพื่อขึ้นรถแห่ฉลองความสำเร็จ เข้าสู่ทำเนียบรัฐบาลในเวลาประมาณ 17.00 น. จากนั้น นายกรัฐมนตรีก็จะให้การต้อนรับและทำพิธีมอบเงินรางวัลกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติให้ “ฮีโร่โอลิมปิกเกมส์” ที่ได้เหรียญรางวัลทุกคน
สำหรับทัพนักกีฬาไทย ที่ตอนนี้ได้มา 2 เหรียญทอง, 1 เงิน, 1 ทองแดง จาก 4 นักยกน้ำหนัก ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินอัดฉีดรวมจากทั้งภาครัฐและเอกชนแล้ว 93.98 ล้านบาท โดย 2 เหรียญทองจาก “แนน” โสภิตา ธนสาร, “ฝ้าย” สุกัญญา ศรีสุราช, 1 เหรียญเงินจาก “แต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว และส่วน 1 เหรียญทองแดงจาก “ดุ่ย” สินธุ์เพชร กรวยทอง
ล่าสุดเมื่อสรุปยอดเงินอัดฉีดของ 4 จอมพลังไทย เฉพาะในส่วนของนักกีฬา คาดว่าจะได้รับเงินอัดฉีดรวมจากทั้งภาครัฐและเอกชนแล้ว 93.98 ล้านบาท
เริ่มจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่ให้เงินรางวัลโอลิมปิกไว้ 2 ทางเลือก กรณีถ้านักกีฬารับเงินสดเป็นก้อน 50% และรับแบ่งจ่ายรายเดือนอีก 50% เป็นเวลา 4 ปี เหรียญทอง รวม 12 ล้านบาท , เหรียญเงิน 7.2 ล้านบาท และเหรียญทองแดง ได้รวม 4.8 ล้านบาท ส่วนอีกทางเลือก รับทีเดียวทั้งหมด เหรียญทองละ 10 ล้านบาท เหรียญเงิน 6 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 4 ล้านบาท ซึ่งสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ เลือกหลักเกณฑ์แรก
ขณะที่ภาคเอกชน ได้จาก อิชิติตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ให้เหรียญทองละ 10 ล้านบาท เหรียญเงิน 1 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 5 แสนบาท , เอไอเอส เหรียญทอง 1 ล้านบาท เหรียญเงิน 5 แสนบาท เหรียญทองแดง 3 แสนบาท พร้อมให้โทรศัพท์มือถือ ค่าโทร และค่าเน็ตฟรี 1 ปี , โอสถสภา เหรียญทอง 1 ล้านบาท เหรียญเงิน 5 แสนบาท เหรียญทองแดง 3 แสนบาท และเครือมติชนมอบให้เหรียญทอง 1 ล้านบาท เหรียญเงิน 5 แสนบาท เหรียญทองแดง 3 แสนบาท
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ จะให้นักกีฬาที่ได้เหรียญโอลิมปิก ในรูปแบบสวัสดิการเงินเดือน เป็นเวลา 20 ปี เหรียญทอง 12,000 บาท/เดือน รวม 240 เดือน 2.88 ล้านบาท, เหรียญเงิน 10,000 บาท/เดือน รวม 2.4 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 8,000 บาท/เดือน รวม 1.92 ล้านบาท
จากจำนวนเงินดังกล่าว ทำให้ โสภิตา กับ สุกัญญา จะได้รับเงินคนละ 27.88 ล้านบาท , พิมศิริ เหรียญเงิน จะได้รับ 12.1 ล้านบาท และ สินธุ์เพชร์ ที่ได้เหรียญทองแดง จะได้รับ 8.12 ล้านบาท
นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา เปิดเผยว่า กกท.กำลังประชุมเพื่อเตรียมการต้อนรับนักกีฬาแล้ว ขณะนี้ได้รับกำหนดวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีฉลองชัยให้แก่นักกีฬา คือวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยจะนัดหมายทุกสมาคมมารวมตัวที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก ในวันที่ 26 ส.ค. เพื่อขึ้นรถแห่ฉลองความสำเร็จ เข้าสู่ทำเนียบรัฐบาลในเวลาประมาณ 17.00 น. จากนั้น นายกรัฐมนตรีก็จะให้การต้อนรับและทำพิธีมอบเงินรางวัลกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติให้ “ฮีโร่โอลิมปิกเกมส์” ที่ได้เหรียญรางวัลทุกคน
สำหรับทัพนักกีฬาไทย ที่ตอนนี้ได้มา 2 เหรียญทอง, 1 เงิน, 1 ทองแดง จาก 4 นักยกน้ำหนัก ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินอัดฉีดรวมจากทั้งภาครัฐและเอกชนแล้ว 93.98 ล้านบาท โดย 2 เหรียญทองจาก “แนน” โสภิตา ธนสาร, “ฝ้าย” สุกัญญา ศรีสุราช, 1 เหรียญเงินจาก “แต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว และส่วน 1 เหรียญทองแดงจาก “ดุ่ย” สินธุ์เพชร กรวยทอง
ล่าสุดเมื่อสรุปยอดเงินอัดฉีดของ 4 จอมพลังไทย เฉพาะในส่วนของนักกีฬา คาดว่าจะได้รับเงินอัดฉีดรวมจากทั้งภาครัฐและเอกชนแล้ว 93.98 ล้านบาท
เริ่มจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่ให้เงินรางวัลโอลิมปิกไว้ 2 ทางเลือก กรณีถ้านักกีฬารับเงินสดเป็นก้อน 50% และรับแบ่งจ่ายรายเดือนอีก 50% เป็นเวลา 4 ปี เหรียญทอง รวม 12 ล้านบาท , เหรียญเงิน 7.2 ล้านบาท และเหรียญทองแดง ได้รวม 4.8 ล้านบาท ส่วนอีกทางเลือก รับทีเดียวทั้งหมด เหรียญทองละ 10 ล้านบาท เหรียญเงิน 6 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 4 ล้านบาท ซึ่งสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ เลือกหลักเกณฑ์แรก
ขณะที่ภาคเอกชน ได้จาก อิชิติตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ให้เหรียญทองละ 10 ล้านบาท เหรียญเงิน 1 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 5 แสนบาท , เอไอเอส เหรียญทอง 1 ล้านบาท เหรียญเงิน 5 แสนบาท เหรียญทองแดง 3 แสนบาท พร้อมให้โทรศัพท์มือถือ ค่าโทร และค่าเน็ตฟรี 1 ปี , โอสถสภา เหรียญทอง 1 ล้านบาท เหรียญเงิน 5 แสนบาท เหรียญทองแดง 3 แสนบาท และเครือมติชนมอบให้เหรียญทอง 1 ล้านบาท เหรียญเงิน 5 แสนบาท เหรียญทองแดง 3 แสนบาท
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ จะให้นักกีฬาที่ได้เหรียญโอลิมปิก ในรูปแบบสวัสดิการเงินเดือน เป็นเวลา 20 ปี เหรียญทอง 12,000 บาท/เดือน รวม 240 เดือน 2.88 ล้านบาท, เหรียญเงิน 10,000 บาท/เดือน รวม 2.4 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 8,000 บาท/เดือน รวม 1.92 ล้านบาท
จากจำนวนเงินดังกล่าว ทำให้ โสภิตา กับ สุกัญญา จะได้รับเงินคนละ 27.88 ล้านบาท , พิมศิริ เหรียญเงิน จะได้รับ 12.1 ล้านบาท และ สินธุ์เพชร์ ที่ได้เหรียญทองแดง จะได้รับ 8.12 ล้านบาท