นายสัญจร จำชัยภูมิ กำนันตำบลห้วยต้อน และตัวแทนผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ในพื้นที่ตตำบลห้วยต้อน อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดชัยภูมิ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ร่วมสนธิกำลังฝ่ายปกครองทหาร ตำรวจ เข้าตรวจสอบพื้นที่พบว่ามีขบวนการเข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูง และไม้หวงห้ามอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมากหลายร้อยต้นของกลุ่มนายทุน และบุกรุกพื้นที่เขตป่าสาธารณะหนองกุดโทน ที่มีเนื้อที่กว้างกว่า 554 ไร่ ในตำบลห้วยต้อน อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ เพื่อนำไปออกโฉนดทับที่ดินสาธารณะ และมีการบุกเข้ามาครอบครัวที่ดินก่อสร้างสิ่งปลูกสร่าง ล้อมรั้วลวดหนามยึดที่ดินสาธารณะหนองกุดโทน ได้รับความเสียหายไปแล้วเป็นจำนวนมากนับ 100 ไร่ ซึ่งการบุกเข้าตรวจสอบในครั้งนี้
กำนันตำบลห้วยต้อน เปิดเผยว่า ล่าสุดมีการตรวจพบว่ามีกลุ่มคนที่มีนายทุนใหญ่จากจังหวัดลพบุรีอยู่เบื้องหลัง ให้ชาวบ้านในพื้นที่เข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูง และไม้หวงห้ามที่มีจำนวนมากในพื้นที่ป่าสาธารณะหนองกุดโทน จึงมีการขอสนธิกำลังเพื่อเข้าตรวจสอบในครั้งนี้ ซึ่งก็พบมีการตัดทำลายต้นไม้ในพื้นที่ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากไปแล้วหลายร้อยต้น รวมทั้งยังมีการมาล้อมรั้วลวดหนามยึดครองที่ดินเพื่อนำไปอ้างเป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมเพื่อขอออกแนดทับที่ดินสาธารณะดังกล่าวไปแล้วหลายร้อยไร่ และมีการติดประกาศขายที่ดิน เป็นพื้นที่ที่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสาธารณะเข้ามา จึงขอให้ผู้ที่เข้ามาครอบครองหยุดดำเนินการดังกล่าวโดยเด็ดขาด รวมทั้งทางเจ้าหน้าที่จะทำการรื้อถอนรั้วที่มีคนมากั้นไว้บุกรุกพื้นที่ป่าสาธารณะเข้ามาออกโดยด่วน และในส่วนที่ตรวจสอบพบว่าใครมีส่วนเข้าข้องในการบุกรุกครั้งนี้ก็จะได้แจ้งดำเนินการเอาผิดตามกฏหมายต่อไป
กำนันตำบลห้วยต้อน เปิดเผยว่า ล่าสุดมีการตรวจพบว่ามีกลุ่มคนที่มีนายทุนใหญ่จากจังหวัดลพบุรีอยู่เบื้องหลัง ให้ชาวบ้านในพื้นที่เข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูง และไม้หวงห้ามที่มีจำนวนมากในพื้นที่ป่าสาธารณะหนองกุดโทน จึงมีการขอสนธิกำลังเพื่อเข้าตรวจสอบในครั้งนี้ ซึ่งก็พบมีการตัดทำลายต้นไม้ในพื้นที่ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากไปแล้วหลายร้อยต้น รวมทั้งยังมีการมาล้อมรั้วลวดหนามยึดครองที่ดินเพื่อนำไปอ้างเป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมเพื่อขอออกแนดทับที่ดินสาธารณะดังกล่าวไปแล้วหลายร้อยไร่ และมีการติดประกาศขายที่ดิน เป็นพื้นที่ที่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสาธารณะเข้ามา จึงขอให้ผู้ที่เข้ามาครอบครองหยุดดำเนินการดังกล่าวโดยเด็ดขาด รวมทั้งทางเจ้าหน้าที่จะทำการรื้อถอนรั้วที่มีคนมากั้นไว้บุกรุกพื้นที่ป่าสาธารณะเข้ามาออกโดยด่วน และในส่วนที่ตรวจสอบพบว่าใครมีส่วนเข้าข้องในการบุกรุกครั้งนี้ก็จะได้แจ้งดำเนินการเอาผิดตามกฏหมายต่อไป