นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวภายหลังการเปิดนับผลลงคะแนนประชามติร่างธรรมนูญ ว่า ขณะนี้มีการตรวจนับเกินกว่าครึ่งแล้ว ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนเห็นชอบกับการรับร่างรัฐธรรมนูญ และคำถามพ่วง อันแสดงให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการดำเนินการปฏิรูปประเทศอย่างต่อเนื่อง เพราะร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นฉบับแรกที่ได้กำหนดเรื่องการปฏิรูปประเทศอยู่ในหมวดหนึ่งของรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการลงประชามติในครั้งนี้ถือเป็นกระบวนการสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นประชาธิปไตยได้อย่างชัดเจน และยังแสดงให้เห็นว่า ความคิดเห็นและจุดยืนของพรรคการเมืองอาจจะไม่ตรงกับความต้องการของประชาชนเสมอไป
สำหรับในขั้นตอนต่อไป กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จะต้องมีการปรับปรุงเพิ่มเติมในบทเฉพาะกาลให้สอดคล้องกับคำถามพ่วง จากนั้น ส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าการแก้ไขตรงกับประเด็นที่แก้ไขในคำถามพ่วงหรือไม่
รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนกฏหมายลูกนั้น กรรมการร่างรัฐธรรมนูญจะต้องเป็นผู้ยกร่างจำนวน 10 ฉบับ ภายใน 240 วัน และส่งให้ สนช.พิจารณาภายใน 2 เดือน ซึ่งหากพิจารณา 4 ฉบับแรกสำเร็จ จะเป็นการเริ่มต้นเดินหน้าการเลือกตั้งภายใน 150 วัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง พร้อมกับการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการลงประชามติในครั้งนี้ถือเป็นกระบวนการสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นประชาธิปไตยได้อย่างชัดเจน และยังแสดงให้เห็นว่า ความคิดเห็นและจุดยืนของพรรคการเมืองอาจจะไม่ตรงกับความต้องการของประชาชนเสมอไป
สำหรับในขั้นตอนต่อไป กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จะต้องมีการปรับปรุงเพิ่มเติมในบทเฉพาะกาลให้สอดคล้องกับคำถามพ่วง จากนั้น ส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าการแก้ไขตรงกับประเด็นที่แก้ไขในคำถามพ่วงหรือไม่
รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนกฏหมายลูกนั้น กรรมการร่างรัฐธรรมนูญจะต้องเป็นผู้ยกร่างจำนวน 10 ฉบับ ภายใน 240 วัน และส่งให้ สนช.พิจารณาภายใน 2 เดือน ซึ่งหากพิจารณา 4 ฉบับแรกสำเร็จ จะเป็นการเริ่มต้นเดินหน้าการเลือกตั้งภายใน 150 วัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง พร้อมกับการเดินหน้าปฏิรูปประเทศ