สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2559 เพื่ออัญเชิญลงหนังสือวันแม่แห่งชาติ ปี 2559 ของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ความว่า “สอนให้ลูกทั้งหลายเดินสายกลาง ทำทุกอย่างพอดีมีเหตุผล ประกอบด้วยคุณธรรมนำทางตน ย่อมได้คนดีพอต่อบ้านเมือง” นับเป็นเวลาเกือบ 7 ทศวรรษแล้ว ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้โดยเคียงคู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปทรงเยี่ยมราษฎรของพระองค์ไปทั่วทุกหย่อมหญ้าของประเทศ เพื่อยกระดับ คุณภาพชีวิต และพัฒนาอาชีพของประชาชน
ทั้งนี้เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ผมขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมกันแสดงความจงรักภักดีแด่แม่ของแผ่นดิน ด้วยการทำความดีประกอบกิจกรรม ทางวัฒนธรรม พิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลอย่างพร้อมเพรียงกัน
พร้อมกันนี้ผมขอเชิญชวนประชาชน และทุกภาคส่วน ได้ช่วยกันสวมเสื้อสีฟ้า ในวันที่ 12 สิงหาคม 2559 หรือตามอัธยาศัย และประดับธงสัญลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ หน้าบ้านและสถานที่ราชการ ตลอดปี 2559 นี้
สำหรับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มากกว่า 4,000 โครงการ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เช่น ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพบางไทรนั้น ทั้ง 2 พระองค์ ทรงเน้นการสนับสนุนการสร้างคน พัฒนาอาชีพ ยกกระดับคุณภาพชีวิตด้วยวิถีชาวบ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือปราชญ์ชาวบ้าน ซึ่งเป็นการระเบิดจากข้างใน นอกจากนั้นยังมีมูลนิธิศิลปาชีพ ซึ่งเป็นการอนุรักษ์งานศิลป์ งานฝีมือ ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ส่วนการต่อยอดขยายผลด้านการตลาด และอื่นๆ นั้น ผมได้มีการสร้างความเชื่อมโยงในห่วงโซ่อุปทาน ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ทุกรัฐบาลต้องให้ความสำคัญ และน้อมนับการพัฒนาอันเกิดจากโครงการต่างๆ เหล่านั้น ไปสู่การผลิต การแปรรูป การสร้างนวัตกรรมเพิ่มมูลค่า ในตลาดต่อไป ทั้งภายใน และภายนอกประเทศอย่างเป็นระบบต่อไป เช่น สินค้าโอทอปที่เรียกว่า ประชารัฐ วันนี้ มีการจัดตั้งมานาน เราก็มากวดขัน พัฒนาปรับปรุงคุณภาพให้ผ่านมาตรฐาน รัฐบาลได้ส่งเสริมให้เป็นสินค้าโอทอปประชารัฐ มาอย่างต่อเนื่อง โดยสนับสนุนสินค้าโอทอปประชารัฐไปจำหน่ายในสนามบิน บนเครื่องบิน ร้านค้าประชารัฐสุขใจ ปั๊ม ปตท. ตลาดออนไลน์ อื่นๆ เป็นต้น มีหลายโครงการด้วยกัน หลายอย่างด้วยกัน ล่าสุดมีโครงการช็อปช่วยชุมชน โดยให้จัดซื้อโครงการสินค้าโอทอปประชารัฐทั่วประเทศ สามารถนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามจริง และไม่เกิน 15,000 บาท ตลอดเดือนสิงหาคมนี้ และในงาน“ศิลปาชีพประทีปไทย โอทอปก้าวไกลด้วยพระบารมี” ในห้วงวันที่ 12-20 ส.ค.2559 ณ เมืองทองธานี ก็มีงานด้วย
สำหรับการทำงานที่สำคัญของรัฐบาลสัปดาห์นี้ ได้แก่ การแก้ไขปัญหาผักตบชวา ซึ่งขึ้นอยู่หนาแน่นในปัจจุบันขยายพันธุ์รวดเร็วในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะหน้าประตูระบายน้ำเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ระยะทางยาวสัก 5-6 กิโลเมตร ประมาณมากกว่า 5 หมื่นตัน ผมได้สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งรัดกำจัด แก้ไขเป็นการเร่งด่วน จริงๆ แล้ว เขาแก้ไขมาทีแล้วเมื่อต้นเดือน ฝนมากขึ้นความเชื่อมต่อกันระหว่างแผ่นดินที่มีผักตบชวาขึ้นอยู่ ในพื้นที่ตอนใน หรือในพื้นที่ชุมชน ห้วย หนอง คลองบึง ที่ไม่ใช่แม่น้ำ ก็ปรากฏว่ามันเชื่อมต่อกันได้ เหล่านั้นก็ออกมาเพิ่มเติม กันในแม่น้ำลำธารอีกต่อไป เราต้องเร่งรัดกำจัด ตั้งแต่ต้นทางก็คือ ตามบ้าน แหล่งน้ำ ตามชุมชน เพื่อไม่ให้แพร่ลงมาสู่ คูคลองอีก ในระดับต่อไป เพราะฉะนั้นเราต้องเร่ง กำจัดเป็นการเร่งด่วน เหล่านี้เปนการแก้ไขที่ปลายเหตุเท่านั้นเอง เราจะต้องไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นอีก ตั้งแต่ต้นทาง ก็คือ ตรงไหนก็ตามที่มี ผักตบวา เราต้องไม่ปล่อยให้มันขยายได้
ผมเห็นว่ามี พ.ร.บ.ฉบับหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องการกำจัดผักตบชวา มีผู้รับผิดชอบทั้งหมด ผมขออนุญาตให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำ พ.ร.บ. ฉบับนี้มาปฏิบัติ ใครที่ปล่อยปล่อยให้มีการแพร่ขยาย กระจาย มีส่วนรับผิดชอบทั้งหมด ทางกฎหมายด้วย ขอให้นำมาทบทวนให้หมด แล้วเราจะสร้างมาตรการต่าง ๆ ที่มันเกิดความชัดเจนยั่งยืนในอนาคตว่าใครจะรับผิดชอบ ใช้เครื่องมืออย่างไร ให้ความร่วมมือกันอย่างไร ในลักษณะประชารัฐ ไม่อย่างนั้นแก้ไม่ได้หรอกครับ ปีหน้าก็กลับมาอีก หรือมะรืนนี้ก็มาอีก แล้วก็ทำให้ท่อทางต่างๆ มันตัน การระบายน้ำ ทำได้ยาก เพราะฉะนั้น เราต้องระวังให้มากที่สุดในช่วง ฤดูนี้เราจะได้ระบายน้ำในช่วงน้ำหลาก เราจะต้องไม่ปล่อยให้เป็นอุปสรรค ต่อการสัญจรทางน้ำ การจับปลาของชาวบ้าน การเดินเรือ
ปัจจุบันหน่วยงานรัฐได้มีการบูรณาการ ระดมเครื่องจักรกล รถแบ็กโฮ โป๊ะเรือขุดจำนวน 7 ชุด เข้ามาทำงานเป็นการเร่งด่วน รวมทั้งทหาร เพราะฉะนั้นอาจจะต้องแสวงหาความร่วมมือตามแนวทางประชารัฐเพิ่มเติมคือ ไปกำจัดตั้งแต่ต้นทาง ตั้งแต่บ้านท่าน ชุมชนของท่านก่อนด้วย มันถึงจะไม่ไหลลงมาสู่แหล่งน้ำ สู่แม่น้ำ ลำธาร มันเข้ามาออเต็มหน้าเขื่อน เราก็ต้องมาเก็บกันหน้าเขื่อน 5-6 กิโลเมตร แบบนี้
วันนี้ได้สั่งการไปอีกทางคือ ฝ่ายความมั่นคง ให้หน่วยทหารในพื้นที่ ได้นำกำลังพลทหาร เครื่องจักรกลไปช่วยเหลือแล้ว จากกรมงานทหารช่าง กรมงานทหารช่างเหล่านี้ เครื่องจักรทางทหาร เป็นการด่วน คิดว่า 3 สัปดาห์จะจัดการไปได้หมด ทำยังไงจะไม่เกิดขึ้นมาใหม่ อย่างที่ผมกล่าวไปแล้ว เมื่อสักครู่ ต้นทางเอา พ.ร.บ. มาดำเนินการ ถ้าเราสามารถเก็บได้ส่วนหนึ่งเอาไปทำปุ๋ยใช้กันเอง ใช้ประโยชน์ในชุมชน คงไม่ต้องถึง ทำแล้วมาขายกัน ผมว่ามันไม่ได้ จริงๆ แล้ว มันก็ไม่ได้มากนัก ทุกคนเอามาใช้ประโยชน์ ทุกคนมีวิธีการเยอะแยะ เราจะได้แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
วันนี้ก็ได้เร่งให้มีการศึกษาการใช้สารเคมี หรือหาวิธีในการควบคุม กำเนิดของผักตบชวา ทางการขยายพันธุ์เหล่านี้ ก็จะต้องไมีมีผลกับสัตว์น้ำกับน้ำให้มีคุณเสียหายไป ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมอื่นๆ เราต้องลดทุกอย่าง ลดทั้งจากผักตบเองด้วย ลดจากประชาชนด้วย ด้วยความร่วมมือระหว่างกัน ผมจะให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปหาแนวทางกันในการกำจัดผักตบชวา โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ในการแปรรูป ในการทำเครื่องใช้ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ หรือไปทำเป็นอาหารสัตว์ ด้วยการผสมต่างๆ เข้าไปสามารถลดต้นทุนการผลิตได้อีกทางหนึ่งด้วย
วันพุธที่ผ่านมานั้น ผมได้เดินทางไปเปิดโครงการสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 6 สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ซึ่งเป็นการก่อสร้างทางแนวใหม่ตามมาตรฐานทางหลวงพิเศษ ขนาด 4 - 6 ช่องจราจร ซึ่งจะเป็นจุดเชื่อมต่อให้เกิดความเชื่อมโยงกับถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ส่วนเหนือ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจะไปสิ้นสุดที่บริเวณทางเลี่ยงเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ระยะทางรวม 197 กิโลเมตร
ทั้งนี้ เพื่อจะแก้ปัญหาจราจรติดขัด ซึ่งเป็นทุกข์ของพี่น้องประชาชนชาวอีสาน ที่ต้องรถติดเป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงวันหยุดเทศกาลหลายๆ วัน เราจะได้เป็นการส่งเสริมศักยภาพการท่องเที่ยว ความเชื่อมโยงด้านระบบโลจิสติกส์ แล้วก็ลดต้นทุนในการขนส่งสินค้าอีกด้วยนะครับ ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงอีกนะ ประหยัดลงได้อีกมาก ทั้งนี้ ตามแผนงานดังกล่าวนั้น จะดำเนินงานแล้วเสร็จในปี 2563 ทางหลวงพิเศษหลายเลข 6 นี้ จะเป็นเส้นทางเชื่อมโยงกรุงเทพฯ ให้กับศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมทั้งประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ สร้างงาน สร้างอาชีพให้พี่น้องชาวอีสาน ไม่ต้องมาเดินทางเสี่ยงโชคห่างไกลครอบครัวในกรุงเทพฯ อีกต่อไป โครงการนี้จำได้ตั้งแต่ 2539 โครงการนี้ใช้เวลาในการสำรวจ ศึกษาผลกระทบมากว่า 20 ปี ทั้งในเรื่องของการเวนคืนที่ดิน การจ่ายเงินค่าชดเชย การประกวดราคา การลงทุน การก่อสร้าง สร้างไม่ได้สักที ทั้งเส้นทาง ทั้งสองข้างทาง ทั้งการจัดตั้งศูนย์บริการทางหลวง ที่พักริมทาง สถานที่ให้บริการ ด่านเก็บค่าผ่านทาง ก็เห็นว่าใช้เวลาทั้งสิ้น เราก็เร่ง มันจะเกิดได้ตอนนี้ไง เท่าไรล่ะ 39 มานี่ 59 แล้ว 20 ปีไปแล้ว จึงจะเกิดได้เส้นนี้ มีอีกหลายเส้นที่มันเกิดไม่ได้สักที ผมจะเร่งรัดนะ ว่าจะทำยังไง เป็นการวางแผนทางยุทธศาสตร์ ไม่ได้คิดว่าวันนี้สร้างปีนี้ แล้วปีหน้าใช้ หรือสร้างแล้วมันเสร็จเร็ว อะไรที่มันเป็นแผน มันก็คือแผน อะไรทำได้เราก็ทำ นั่นเขาเรียกการพัฒนาอย่างเป็นระบบ ไม่มีผลเสียต่องบประมาณโดยรวมของประเทศด้วย รัฐบาลนี้ก็พยายามเดินหน้าผลักดันหลายอย่างออกมา ได้วางรากฐานบรรจุยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพราะยังไงมันก็ต้องทำอยู่ดี ก็เขียนไว้ไม่เห็นเสียหาย รัฐบาลหน้ามาก็ทำไป ในส่วนของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก็ต้องระบุไว้ให้ชัดเจนว่า ระบบลอจิสติกส์ การเชื่อมโยงจะทำยังไง ภายใน 5 ปีต่อไป มันก็เป็นแผนพัฒนาประเทศที่มันมีกรอบของมันในการเดิน จะต้องสอดคล้องกัน
พี่น้องครับ ในวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม นี้ เป็นวันออกเสียงประชามติ ก็จะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้จัดทำขึ้นด้วยความยากลำบาก สำหรับพี่น้องบางคนที่คุ้นเคยกับการเลือกตั้ง ส.ส., ส.ว., อบต., อบจ., กำนัน ,ผู้ใหญ่บ้าน อาจจะมีบ้างที่อาจจะไม่เข้าใจว่าการลงประชามติคืออะไร ทำไมจึงต้องลงประชามติ การลงประชามตินั้นอธิบายง่ายๆ มันเป็นขั้นตอนหนึ่งในระบอบประชาธิปไตยที่ทุกคนต้องการ ก็ไม่ต่างจากการเลือกตั้งผู้แทนฯ เพียงแต่เปลี่ยนคำถามว่า ชอบเบอร์อะไร พรรคอะไร มาเป็นคำถามว่า เห็นชอบ หรือ ไม่เห็นชอบ กับกฎเกณฑ์กติกาการปกครอง ที่เรียกว่า รัฐธรรมนูญ กรอบใหญ่ กว้างๆ คล้ายกับที่ครูเคยถามนักเรียนว่า เอาไม่เอา ชอบไม่ชอบ ใครชอบยกมือ การมีรัฐธรรมนูญนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นเครื่องมือที่จะนำไปสู่การเลือกตั้ง การจัดตั้งรัฐบาล และการมีกฎเกณฑ์ของบ้านเมือง ว่าใครทำอะไรได้แค่ไหน เพียงใด ถ้ามีรัฐธรรมนูญมันก็ไม่อาจจะจัดการเรื่องเลือกตั้งได้ หรือร่างใหม่มันจะออกผลมาเป็นยังไง ก็ไม่ทราบทั้งหมด
ฉะนั้นการเริ่มงานอื่นๆมันก็ต้องไม่สามารถกระทำได้ ถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญ คสช.และรัฐบาลก็ได้ประกาศตั้งแต่ 2 ปีก่อนแล้วว่า เราจำเป็นต้องเข้ามานั้นเพราะว่าบ้านเมืองมีปัญหา ที่ผ่านมาไม่มีใครยอมรับใครเปิดเจรจากี่เวทีก็ไม่ได้ผล แก้ทางนี้ติดทางโน้น ทั้งปัญหากฎหมายบ้านเมือง ปัญหาการเมือง ผลประโยชน์ส่วนตัว ทัศนคติ รวมแล้วสารพัดปัญหา ตั้งแต่ในบ้าน ที่ทำงาน พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนร่วมงาน พูดจาหารือกันไม่ได้เลย เข้าหน้ากันไม่ติด เพราะชอบคนละอย่าง ชอบคนละสี คิดคนละอย่าง เห็นต่างได้ แต่มันต้องมีความร่วมมือเกิดขึ้นให้ได้ บนท้องถนนก็มีปัญหา ต่างจังหวัดถึงในสภาฯ มีการยุบสภาฯ แล้ว ก็เลือกตั้งไม่ได้ ชาวไร่ชาวนาก็เดือดร้อน หนี้สินล้นพ้นตัว ข้าวราคาตก ยางราคาตก จ่ายเงินค่าจำนำข้าวอะไรไม่ได้เหล่านี้ มันมีปัญหาทั้งสิ้น นักลงทุนต่างชาติเขาก็เตรียมจะย้ายหนี เพราะไม่เชื่อมั่นว่ามันจะปลอดภัย ไม่นึกว่าพ้นจากปัญหาน้ำท่วมแล้วจะมาเจอปัญหาความแตกแยกในสังคมไทยที่น่าอยู่แบบเดิมๆ ไปจนทำมาหากินกันไม่ได้ แล้วก็มีหลายอย่างที่เป็นการทุจริต เราจะต้องนำสิ่งเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการแก้ไขให้ได้ทั้งหมด เราไม่อาจจะใช้อำนาจอื่นๆ นอกจากทางกระบวนยุติธรรมเท่านั้น ให้มีโอกาสต่อสู้คดีกันด้วยหลักฐานที่ถูกต้อง คสช.และรัฐบาลก็ได้แถลงว่า การที่เราขอเวลาเข้ามาแก้ปัญหาเดิมๆ นั้น เพื่อจะขอเวลาทำในเรื่องของการยุติความขัดแย้งและคืนความสุขให้แก่ประชาชน แน่นอนไม่ทุกคน คงพอใจไมได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็ทำให้เกิดเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่า ความสุขของทุกคนมันมีหลายคน หลายพวก หลายเหล่า ไม่ได้เฉพาะกลุ่มนี้กลุ่มโน้น มันไม่ได้ การชักนำอะไรต่างๆ ก็ตามทำให้คนส่วนใหญ่นั้นมันยาก ที่จะให้ทุกคนพอใจทั้งหมด แต่มันเป็นอนาคต เราจะได้สามารถก้าวไปข้างหน้าทุกคนมีทางเลือก มีโอกาส เราจะต้องวางรากฐานเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านั้นที่คั่งค้างมายาวนาน รวมไปถึงการเตรียมการแก้ปัญหาใหม่ๆ ที่มันจะเกิดขึ้น อย่างนี้เขาถึงเรียกว่า ปฏิรูปประเทศ มันจะต้องมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน เป้าหมายจะก้าวเดินต่อไปยังไง ทิศทางใดมีกรอบให้ชัดเจนขึ้น มองภาพอนาคตให้เห็น ให้ชัดเจน ผลดำเนินการ 2 ปีที่ผ่านมานั้น มีหลักฐานเชิงประจักษ์ ถึงความสำเร็จในการทำงาน เช่น
1.สหประชาชาติยูเอ็น ประกาศการจัดอันดับดัชนี e-Government ล่าสุดประเทศไทย “เลื่อนขึ้น” ถึง 25 อันดับจาก 102 ในปี 2014 ขึ้นเป็นอันดับที่ 77 ในปี 2016 ขึ้นมาหลายอันดับ จาก 102 เป็น 77 จาก 193 ประเทศทั่วโลก ทั้งหมดที่ประเมิน ก็ถือได้ว่า UN ให้ความยอมรับนโยบาย และการดำเนินการของรัฐบาลนี้ในเรื่องการขับเคลื่อนการปรับเปลี่ยนยกระดับกลไกภาครัฐในห้วง 2 ปีที่ผ่านมา
2.มหาวิทยาลัยวาเซดะ ของญี่ปุ่นประกาศผลการจัดอันดับ e-Government เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ในปี 2016 นี้ประเทศไทยได้อันดับที่ 21 จาก 65 ประเทศ ขยับ “ดีขึ้น”2 อันดับ จากปี 2014 ได้อันดับที่ 23 ขึ้น 2 อันดับนี่ก็ไม่ใช่ง่าย ๆ โดยรวมถึงภาพความก้าวหน้า สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินนโยบายภาครัฐของไทยนั้นดีขึ้น จากการจัดอันดับของ 2 สถาบันหลักซึ่งเป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติในด้านนี้และ
3 สถาบันและองค์กรต่างๆ ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ก็ได้ประเมินว่า สถานการณ์คอร์รัปชั่นของไทย ในสายตานานาชาติ ว่าดีที่สุด ในรอบ 6 ปี มีภาพลักษณ์โปร่งใส ดีที่สุด ในรอบ 10 ปี เป็นต้น เหล่านี้เป็นสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นคสช.และรัฐบาล ต้องขอบคุณที่ 2 ปีมานี้ ประชาชนโดยทั่วไปต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี กระตือรือร้นช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อย แก้ไขปัญหา และพัฒนาประเทศ ช่วยเป็นหูเป็นตาให้รัฐบาล ดังที่ผมได้รับข่าวจากพี่น้องทั้งหลาย ทั้งจากศูนย์ดำรงธรรม ศูนย์ร้องทุกข์อื่นๆ สื่อออนไลน์ และจดหมายที่ส่งตรงถึงผมทุกวันซึ่งผมได้อ่านทุกฉบับที่ส่งมา ทั้งภาคเอกชนเองก็ร่วมจับมือกันริเริ่มโครงการพัฒนาเรียกว่าสานพลังแนวทางประชารัฐ เพื่อช่วยเสริมโครงการของรัฐในด้านที่ตนถนัด รัฐบาลต้องขออภัย ที่ 2 ปี มานี้อาจทำให้สิทธิเสรีภาพบางอย่างของท่าน ไม่อาจใช้ได้เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็นที่ท่านต้องการ แต่ขอยืนยันว่าเราได้ทำเท่าที่จำเป็น และอยู่ภายใต้กรอบของหลักนิติธรรม ไม่ได้อยากทำอะไรตามอำเภอใจเพื่ออำนาจ เพื่อสร้างความหวาดกลัว หรือปราศจากเหตุผล หรือกลั่นแกล้งผู้ใดเลย ถ้าไม่มีเรื่องก็ไม่ต้องใช้หรอก เพราะเป็นการยากที่รัฐบาลจะอธิบายเหตุผลความจำเป็นดังกล่าวแก่ท่านทุกคนให้เข้าใจตรงกันในเวลาเดียวกัน เพราะแต่ละคนยังไม่เปลี่ยนแปลงตนเอง ทำอะไรตามอำเภอใจเพื่ออำนาจ เพื่อสร้างความหวาดกลัว หรือปราศจากเหตุผล หรือกลั่นแกล้งผู้ใดเลย ถ้าไม่มีเรื่องมันไม่ต้องใช้หรอกนะ มันเป็นการยากนะครับที่รัฐบาลจะอธิบายเหตุผลความจำเป็นดังกล่าวแก่ท่านทุกคนให้เข้าใจตรงกันในเวลาเดียวกัน เพราะต่างคนต่างยังไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง อย่างที่ท่านทราบอยู่แล้วว่าวันนี้เราเข้ามาทำอะไร รัฐบาลนี่ทราบทุกอย่าง ประชาชนอาจจะยังไม่ทราบทั้งหมดนะครับ ซึ่งผมก็ไม่สามารถอาจจะมาพูดได้ทั้งหมดในเวลานี้ ผมคิดว่าท่านคงเข้าใจ ท่านคงคิดอย่างเดียวกับรัฐบาล ในขณะเดียวกันโดยส่วนตัวแล้วนั้น ผมต้องขออภัยประชาชน เพื่อนร่วมงาน ข้าราชการ สื่อมวลชนด้วยนะครับ ในบางครั้งด้วยนิสัยของผมความเป็นทหาร มีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่น และมีความรู้สึกว่าต้องทำงานแข่งกับเวลา อาจทำให้ผมแสดงกริยาไม่เหมาะสม หงุดหงิด อารมณ์เสียไปบ้าง ต้องขอโทษด้วยแล้วกัน ไม่มีเจตนาอะไรกับใครทั้งสิ้น
ทั้งนี้เพื่อให้การเดินหน้า การทำงานจากนโยบายของรัฐบาล และ คสช.นั้นไปได้โดยเร็ว อีกเรื่องสำคัญคือ เรามีความจำเป็นให้มีการจัดให้มีรัฐธรรมนูญขึ้น เพื่อสำหรับใช้เป็นกติกา ยกตัวอย่างเช่นเมื่อจะเล่นกีฬาอะไรก็ตามไม่มีกติกาเล่นไม่ได้หรอกครับ เริ่มต้นให้ได้ก่อน กติกาค่อยว่าไง วันนี้มีกติกา ดีกว่าไม่มีแล้วไปแก้ไขมันไม่ได้ทั้งสิ้น
ตอนนั้นค่อยพูดถึงว่า คนเล่นมันจะทำยังไงกันต่อไป ฉบับเทคนิคอะไรต่างๆ กฎข้อห้ามตามมาอีก รัฐธรรมนูญต้องมีกฎหมายลูก กฎหมายอื่นๆ กฎกระทรวง ระเบียบสำนักนายกฯ มันต้องสอดคล้องกันทั้งหมด ไม่ใช่รัฐธรรมนูญเป็นตัวกำหนดเองทั้งหมด กรอบต้องกว้างจากนั้นกฎหมายทุกกฎหมายก็ตามมาจากรัฐธรรมนูญ
วันนี้ทุกคนให้ความสำคัญกับรัฐธรรมนูญถูกต้อง แต่ไม่สนใจกับกฎหมายที่รองรับอยู่ข้างหน้า หรือกฎหมายทั่วไป มันไม่ใช่นะครับ เพราะกฎหมายต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ถ้าท่านเคารพรัฐธรรมนูญ ท่านต้องพยายามให้ความสำคัญกับกฎหมายทุกฉบับด้วย อันนั้นคือประเด็นสำคัญของผม เราได้มีการร่างมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกได้มอบให้คณะกรรมการชุด อ.บวรศักดิ์ เป็นผู้ยกร่างกติกาเหล่านี้ หลายอย่างก็อยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถึงแม้จะไม่ผ่านความเห็นชอบก็ตาม ก็ต้องจัดทำใหม่ และให้คณะกรรมการชุด อ.มีชัย เข้ามาทั้ง 2 คณะมีความตั้งใจอย่างสูงยิ่งในการที่จะทำให้บ้านเมืองมันพ้นผ่านไปได้ มันต้องมีกติกาหลายอย่างขึ้นมา กติกาเกิดมาจากอะไรล่ะครับ ก็ต้องเกิดมาจากสิ่งที่มันผิดพลาดในอดีต เพื่อจะสร้างอนาคตให้ได้ก่อนในช่วงนี้ให้เปลี่ยนผ่านให้ได้ เรากำลังจะลงประชามติกันอีก 2 วันนี้ ผมขอเชิญชวนพี่น้องทุกท่านที่ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป ออกไปใช้สิทธิ์ลงประชามติให้ไปกันให้ถล่มทลายนะครับ ผมไม่ต้องการว่าเปอร์เซ็นต์ ไปกันให้มากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ชาติไทย ผมขอร้อง ไปให้เต็ม ไม่ต้องกลัว แสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ แล้วใครก็ตามที่ทำให้เกิดความวุ่นวายสับสนอลหม่าน เกิดการบาดเจ็บ สูญเสียอะไรก็แล้วแต่ จะลงโทษอย่างเด็ดขาดในทุกอำนาจที่ผมมีอยู่ ท่านจะลงประชามติอย่างไรก็สุดแท้แต่วิจารณญาณของท่าน ตามความเข้าใจของท่าน กรุณานึกถึงบ้านเมือง นึกถึงอนาคต นึกถึงลูกหลาน นึกถึงความมีเสถียรภาพของรัฐบาล นึกถึงโรดแมปอะไรต่างๆ เหล่านี้ อย่าใช้อารมณ์ความรู้สึก ที่บางคนพยายามสร้างภาพกลับไปกลับมากันอยู่ตอนนี้ อย่าสับสนนะครับ ท่าน อ.มีชัย ได้ชี้แจงแล้ว ทาง สนช. ท่านรองประธาน สนช.ก็ออกมาชี้แจงแล้ว ทั้งในเรื่องของรัฐธรรมนูญ เรื่องคำถามพ่วงอะไรเหล่านี้ 1 คน 1 เสียง ผมก็มี 1 เสียงเท่าท่านแหละ สำหรับใครก็ตามออกมาพูดความคิดเห็นเหล่านี้ ผมไม่ได้ห้าม เพราะฉะนั้นท่านจะมาห้ามผมตลอดเวลาคงไม่ได้มั้ง เราจะทำให้บ้านเมือง เดินหน้าต่อไปให้ได้ก็ต้องมีกติกาบ้าง
การลงประชามติเป็นโอกาส อย่าทำให้โอกาสนี้มันเป็นประเด็นความขัดแย้งขึ้นมาใหม่ เป็นวิกฤตการทำร้ายประเทศ รัฐบาลยอมรับได้ทุกอย่าง ก็ขอให้ประชาชนยอมรับไปด้วย เมื่อมันจะเกิดอะไรตามมา ถ้าหากผ่านหรือไม่ผ่าน บ้านเมืองยังเดินต่อไปได้ไหมอย่างสงบสุขได้หรือไม่ นี่คือกติกานั่นเอง ถ้าผ่านก็จะมีการประกาศใช้ มีการจัดทำกฎหมายที่จำเป็นต่อการเลือกตั้ง จัดให้มีการเลือกตั้ง แถลงหลายครั้งแล้วนะครับทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ปี 60 ถ้าไม่ผ่านก็จำเป็นต้องจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อยู่ดี ก็ต้องทำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ไม่กระทบกับโรดแมป หลายคนก็จับจ้องตรงนี้ ถ้าตรงนี้มันไปไม่ได้ มันก็ไปถึงตรงนู้นไม่ได้ ท้ายสุดก็กดดันรัฐบาล คสช.อยู่ดี
ผมขอให้พี่น้องทุกท่านอย่าวิตกกังวลกับสถานการณ์ของประเทศจะเปลี่ยนแปลงด้วยประเด็นเหล่านี้ไม่ได้หรอกครับ ทุกอย่างต้องเดินหน้าไปตามนี้ ถึงยังไงประโยชน์ของบ้านเมืองมาก่อน
ผมไม่ยอมอยู่แล้ว ทุกอย่างต้องเดินหน้าไปตามนี้ ถึงอย่างไรประโยชน์ของบ้านเมืองก็ต้องมาก่อน ประโยชน์ส่วนบุคคลมีได้อย่างถูกกฎหมายแต่ต้องมาทีหลัง การทำงานถ้าไม่มีกรอบเดินหน้าไม่ได้ ไม่ว่าจะวิธีใดก็ตาม ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่าน บ้านเมืองของเรานั้นก็ยังมีเรื่องต้องทำอีกมาก เราจะรอรัฐบาลหน้ามาแล้วค่อยทำไม่ได้ ที่ผ่านมาเราก็รอมานานแล้ว เช่น การฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการบรรเทาทุกข์เกษตรกรที่เป็นความยั่งยืน เราต้องผลักดันการปฏิรูปประเทศหลายๆ ด้าน ลดความเหลื่อมล้ำ การดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงวัย ผู้ด้อยโอกาส การศึกษา การรักษาพยาบาล เยอะแยะไปหมด งบประมาณก็จำกัด มันจะต้องพัฒนาทั้งหมดนั้น ผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจจากภายใน ปรับโครงสร้างการผลิต โครงสร้างพื้นฐาน ต้องวางรากฐานการจัดการศึกษา การรักษาพยาบาลให้มันดีขึ้นกว่าเดิม แก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ตลอดจนขจัดการคอร์รัปชันให้ได้มากที่สุด มันไม่ได้แก้ง่ายๆ ต้องแก้ทั้งระบบ หลายคนเกี่ยวข้อง สั่งไปอย่างเดียวมันบางทีก็ไม่ได้ผล 100% อยู่แล้ว ต้องติดตาม ดำเนินคดีเยอะแยะไปหมด มันเป็นภาระที่มันรุงรังอยู่ขณะนี้
ดังนั้นไม่ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน เราก็คงต้องรักษาคำพูดว่า เราจะอยู่เคียงคู่พี่น้องประชาชนต่อไปเท่าที่เวลาเปิดโอกาสให้ทำ เพื่อจะดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ตราบจนกระทั่งสามารถส่งต่อภารกิจให้รัฐบาลใหม่ หลังเลือกตั้งได้เรียบร้อย โดยไม่มีการสืบทอดอำนาจ ทุกอย่างจะเป็นไปโดยวิถีทางของประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าฉบับนี้หรือฉบับไหนก็ตาม และจะไม่ยอมให้ผู้ใดก่อความเดือดร้อนวุ่นวาย ฉวยโอกาสทำผิดกฎหมาย สร้างความขัดแย้ง หรือขัดขวางการพัฒนา และการปฏิรูปประเทศเป็นอันขาด
เมื่อผลการออกเสียงประชามติปรากฏชัดเจนไม่ว่าจะเป็นประการใด คสช. และรัฐบาล จะได้ชี้แจงแนวทางปฏิบัติให้ทราบ เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าโดยราบรื่น พี่น้องทั้งหลายจะได้คลายกังวลว่าทุกอย่างยังคงอยู่ใต้การดูแลเป็นปกติ เหมือน 2 ปีที่ผ่านมาที่ท่านไว้ใจเรา และผมจะได้ชี้แจงแนวทางดังกล่าวผ่านทางสื่อมวลชนให้ท่านทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ขอบคุณอีกครั้งในความร่วมมือทุกประการของทุกคน ร่วมมืออกมาให้เต็มบ้านเต็มเมืองเลยนะครับ ขอบพระคุณครับ/ สวัสดีครับ
ทั้งนี้เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ผมขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมกันแสดงความจงรักภักดีแด่แม่ของแผ่นดิน ด้วยการทำความดีประกอบกิจกรรม ทางวัฒนธรรม พิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลอย่างพร้อมเพรียงกัน
พร้อมกันนี้ผมขอเชิญชวนประชาชน และทุกภาคส่วน ได้ช่วยกันสวมเสื้อสีฟ้า ในวันที่ 12 สิงหาคม 2559 หรือตามอัธยาศัย และประดับธงสัญลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ หน้าบ้านและสถานที่ราชการ ตลอดปี 2559 นี้
สำหรับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มากกว่า 4,000 โครงการ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เช่น ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพบางไทรนั้น ทั้ง 2 พระองค์ ทรงเน้นการสนับสนุนการสร้างคน พัฒนาอาชีพ ยกกระดับคุณภาพชีวิตด้วยวิถีชาวบ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือปราชญ์ชาวบ้าน ซึ่งเป็นการระเบิดจากข้างใน นอกจากนั้นยังมีมูลนิธิศิลปาชีพ ซึ่งเป็นการอนุรักษ์งานศิลป์ งานฝีมือ ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ส่วนการต่อยอดขยายผลด้านการตลาด และอื่นๆ นั้น ผมได้มีการสร้างความเชื่อมโยงในห่วงโซ่อุปทาน ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ทุกรัฐบาลต้องให้ความสำคัญ และน้อมนับการพัฒนาอันเกิดจากโครงการต่างๆ เหล่านั้น ไปสู่การผลิต การแปรรูป การสร้างนวัตกรรมเพิ่มมูลค่า ในตลาดต่อไป ทั้งภายใน และภายนอกประเทศอย่างเป็นระบบต่อไป เช่น สินค้าโอทอปที่เรียกว่า ประชารัฐ วันนี้ มีการจัดตั้งมานาน เราก็มากวดขัน พัฒนาปรับปรุงคุณภาพให้ผ่านมาตรฐาน รัฐบาลได้ส่งเสริมให้เป็นสินค้าโอทอปประชารัฐ มาอย่างต่อเนื่อง โดยสนับสนุนสินค้าโอทอปประชารัฐไปจำหน่ายในสนามบิน บนเครื่องบิน ร้านค้าประชารัฐสุขใจ ปั๊ม ปตท. ตลาดออนไลน์ อื่นๆ เป็นต้น มีหลายโครงการด้วยกัน หลายอย่างด้วยกัน ล่าสุดมีโครงการช็อปช่วยชุมชน โดยให้จัดซื้อโครงการสินค้าโอทอปประชารัฐทั่วประเทศ สามารถนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามจริง และไม่เกิน 15,000 บาท ตลอดเดือนสิงหาคมนี้ และในงาน“ศิลปาชีพประทีปไทย โอทอปก้าวไกลด้วยพระบารมี” ในห้วงวันที่ 12-20 ส.ค.2559 ณ เมืองทองธานี ก็มีงานด้วย
สำหรับการทำงานที่สำคัญของรัฐบาลสัปดาห์นี้ ได้แก่ การแก้ไขปัญหาผักตบชวา ซึ่งขึ้นอยู่หนาแน่นในปัจจุบันขยายพันธุ์รวดเร็วในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะหน้าประตูระบายน้ำเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ระยะทางยาวสัก 5-6 กิโลเมตร ประมาณมากกว่า 5 หมื่นตัน ผมได้สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งรัดกำจัด แก้ไขเป็นการเร่งด่วน จริงๆ แล้ว เขาแก้ไขมาทีแล้วเมื่อต้นเดือน ฝนมากขึ้นความเชื่อมต่อกันระหว่างแผ่นดินที่มีผักตบชวาขึ้นอยู่ ในพื้นที่ตอนใน หรือในพื้นที่ชุมชน ห้วย หนอง คลองบึง ที่ไม่ใช่แม่น้ำ ก็ปรากฏว่ามันเชื่อมต่อกันได้ เหล่านั้นก็ออกมาเพิ่มเติม กันในแม่น้ำลำธารอีกต่อไป เราต้องเร่งรัดกำจัด ตั้งแต่ต้นทางก็คือ ตามบ้าน แหล่งน้ำ ตามชุมชน เพื่อไม่ให้แพร่ลงมาสู่ คูคลองอีก ในระดับต่อไป เพราะฉะนั้นเราต้องเร่ง กำจัดเป็นการเร่งด่วน เหล่านี้เปนการแก้ไขที่ปลายเหตุเท่านั้นเอง เราจะต้องไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นอีก ตั้งแต่ต้นทาง ก็คือ ตรงไหนก็ตามที่มี ผักตบวา เราต้องไม่ปล่อยให้มันขยายได้
ผมเห็นว่ามี พ.ร.บ.ฉบับหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องการกำจัดผักตบชวา มีผู้รับผิดชอบทั้งหมด ผมขออนุญาตให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำ พ.ร.บ. ฉบับนี้มาปฏิบัติ ใครที่ปล่อยปล่อยให้มีการแพร่ขยาย กระจาย มีส่วนรับผิดชอบทั้งหมด ทางกฎหมายด้วย ขอให้นำมาทบทวนให้หมด แล้วเราจะสร้างมาตรการต่าง ๆ ที่มันเกิดความชัดเจนยั่งยืนในอนาคตว่าใครจะรับผิดชอบ ใช้เครื่องมืออย่างไร ให้ความร่วมมือกันอย่างไร ในลักษณะประชารัฐ ไม่อย่างนั้นแก้ไม่ได้หรอกครับ ปีหน้าก็กลับมาอีก หรือมะรืนนี้ก็มาอีก แล้วก็ทำให้ท่อทางต่างๆ มันตัน การระบายน้ำ ทำได้ยาก เพราะฉะนั้น เราต้องระวังให้มากที่สุดในช่วง ฤดูนี้เราจะได้ระบายน้ำในช่วงน้ำหลาก เราจะต้องไม่ปล่อยให้เป็นอุปสรรค ต่อการสัญจรทางน้ำ การจับปลาของชาวบ้าน การเดินเรือ
ปัจจุบันหน่วยงานรัฐได้มีการบูรณาการ ระดมเครื่องจักรกล รถแบ็กโฮ โป๊ะเรือขุดจำนวน 7 ชุด เข้ามาทำงานเป็นการเร่งด่วน รวมทั้งทหาร เพราะฉะนั้นอาจจะต้องแสวงหาความร่วมมือตามแนวทางประชารัฐเพิ่มเติมคือ ไปกำจัดตั้งแต่ต้นทาง ตั้งแต่บ้านท่าน ชุมชนของท่านก่อนด้วย มันถึงจะไม่ไหลลงมาสู่แหล่งน้ำ สู่แม่น้ำ ลำธาร มันเข้ามาออเต็มหน้าเขื่อน เราก็ต้องมาเก็บกันหน้าเขื่อน 5-6 กิโลเมตร แบบนี้
วันนี้ได้สั่งการไปอีกทางคือ ฝ่ายความมั่นคง ให้หน่วยทหารในพื้นที่ ได้นำกำลังพลทหาร เครื่องจักรกลไปช่วยเหลือแล้ว จากกรมงานทหารช่าง กรมงานทหารช่างเหล่านี้ เครื่องจักรทางทหาร เป็นการด่วน คิดว่า 3 สัปดาห์จะจัดการไปได้หมด ทำยังไงจะไม่เกิดขึ้นมาใหม่ อย่างที่ผมกล่าวไปแล้ว เมื่อสักครู่ ต้นทางเอา พ.ร.บ. มาดำเนินการ ถ้าเราสามารถเก็บได้ส่วนหนึ่งเอาไปทำปุ๋ยใช้กันเอง ใช้ประโยชน์ในชุมชน คงไม่ต้องถึง ทำแล้วมาขายกัน ผมว่ามันไม่ได้ จริงๆ แล้ว มันก็ไม่ได้มากนัก ทุกคนเอามาใช้ประโยชน์ ทุกคนมีวิธีการเยอะแยะ เราจะได้แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
วันนี้ก็ได้เร่งให้มีการศึกษาการใช้สารเคมี หรือหาวิธีในการควบคุม กำเนิดของผักตบชวา ทางการขยายพันธุ์เหล่านี้ ก็จะต้องไมีมีผลกับสัตว์น้ำกับน้ำให้มีคุณเสียหายไป ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมอื่นๆ เราต้องลดทุกอย่าง ลดทั้งจากผักตบเองด้วย ลดจากประชาชนด้วย ด้วยความร่วมมือระหว่างกัน ผมจะให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปหาแนวทางกันในการกำจัดผักตบชวา โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ในการแปรรูป ในการทำเครื่องใช้ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ หรือไปทำเป็นอาหารสัตว์ ด้วยการผสมต่างๆ เข้าไปสามารถลดต้นทุนการผลิตได้อีกทางหนึ่งด้วย
วันพุธที่ผ่านมานั้น ผมได้เดินทางไปเปิดโครงการสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 6 สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ซึ่งเป็นการก่อสร้างทางแนวใหม่ตามมาตรฐานทางหลวงพิเศษ ขนาด 4 - 6 ช่องจราจร ซึ่งจะเป็นจุดเชื่อมต่อให้เกิดความเชื่อมโยงกับถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ส่วนเหนือ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจะไปสิ้นสุดที่บริเวณทางเลี่ยงเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ระยะทางรวม 197 กิโลเมตร
ทั้งนี้ เพื่อจะแก้ปัญหาจราจรติดขัด ซึ่งเป็นทุกข์ของพี่น้องประชาชนชาวอีสาน ที่ต้องรถติดเป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงวันหยุดเทศกาลหลายๆ วัน เราจะได้เป็นการส่งเสริมศักยภาพการท่องเที่ยว ความเชื่อมโยงด้านระบบโลจิสติกส์ แล้วก็ลดต้นทุนในการขนส่งสินค้าอีกด้วยนะครับ ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงอีกนะ ประหยัดลงได้อีกมาก ทั้งนี้ ตามแผนงานดังกล่าวนั้น จะดำเนินงานแล้วเสร็จในปี 2563 ทางหลวงพิเศษหลายเลข 6 นี้ จะเป็นเส้นทางเชื่อมโยงกรุงเทพฯ ให้กับศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมทั้งประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ สร้างงาน สร้างอาชีพให้พี่น้องชาวอีสาน ไม่ต้องมาเดินทางเสี่ยงโชคห่างไกลครอบครัวในกรุงเทพฯ อีกต่อไป โครงการนี้จำได้ตั้งแต่ 2539 โครงการนี้ใช้เวลาในการสำรวจ ศึกษาผลกระทบมากว่า 20 ปี ทั้งในเรื่องของการเวนคืนที่ดิน การจ่ายเงินค่าชดเชย การประกวดราคา การลงทุน การก่อสร้าง สร้างไม่ได้สักที ทั้งเส้นทาง ทั้งสองข้างทาง ทั้งการจัดตั้งศูนย์บริการทางหลวง ที่พักริมทาง สถานที่ให้บริการ ด่านเก็บค่าผ่านทาง ก็เห็นว่าใช้เวลาทั้งสิ้น เราก็เร่ง มันจะเกิดได้ตอนนี้ไง เท่าไรล่ะ 39 มานี่ 59 แล้ว 20 ปีไปแล้ว จึงจะเกิดได้เส้นนี้ มีอีกหลายเส้นที่มันเกิดไม่ได้สักที ผมจะเร่งรัดนะ ว่าจะทำยังไง เป็นการวางแผนทางยุทธศาสตร์ ไม่ได้คิดว่าวันนี้สร้างปีนี้ แล้วปีหน้าใช้ หรือสร้างแล้วมันเสร็จเร็ว อะไรที่มันเป็นแผน มันก็คือแผน อะไรทำได้เราก็ทำ นั่นเขาเรียกการพัฒนาอย่างเป็นระบบ ไม่มีผลเสียต่องบประมาณโดยรวมของประเทศด้วย รัฐบาลนี้ก็พยายามเดินหน้าผลักดันหลายอย่างออกมา ได้วางรากฐานบรรจุยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพราะยังไงมันก็ต้องทำอยู่ดี ก็เขียนไว้ไม่เห็นเสียหาย รัฐบาลหน้ามาก็ทำไป ในส่วนของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก็ต้องระบุไว้ให้ชัดเจนว่า ระบบลอจิสติกส์ การเชื่อมโยงจะทำยังไง ภายใน 5 ปีต่อไป มันก็เป็นแผนพัฒนาประเทศที่มันมีกรอบของมันในการเดิน จะต้องสอดคล้องกัน
พี่น้องครับ ในวันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม นี้ เป็นวันออกเสียงประชามติ ก็จะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้จัดทำขึ้นด้วยความยากลำบาก สำหรับพี่น้องบางคนที่คุ้นเคยกับการเลือกตั้ง ส.ส., ส.ว., อบต., อบจ., กำนัน ,ผู้ใหญ่บ้าน อาจจะมีบ้างที่อาจจะไม่เข้าใจว่าการลงประชามติคืออะไร ทำไมจึงต้องลงประชามติ การลงประชามตินั้นอธิบายง่ายๆ มันเป็นขั้นตอนหนึ่งในระบอบประชาธิปไตยที่ทุกคนต้องการ ก็ไม่ต่างจากการเลือกตั้งผู้แทนฯ เพียงแต่เปลี่ยนคำถามว่า ชอบเบอร์อะไร พรรคอะไร มาเป็นคำถามว่า เห็นชอบ หรือ ไม่เห็นชอบ กับกฎเกณฑ์กติกาการปกครอง ที่เรียกว่า รัฐธรรมนูญ กรอบใหญ่ กว้างๆ คล้ายกับที่ครูเคยถามนักเรียนว่า เอาไม่เอา ชอบไม่ชอบ ใครชอบยกมือ การมีรัฐธรรมนูญนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นเครื่องมือที่จะนำไปสู่การเลือกตั้ง การจัดตั้งรัฐบาล และการมีกฎเกณฑ์ของบ้านเมือง ว่าใครทำอะไรได้แค่ไหน เพียงใด ถ้ามีรัฐธรรมนูญมันก็ไม่อาจจะจัดการเรื่องเลือกตั้งได้ หรือร่างใหม่มันจะออกผลมาเป็นยังไง ก็ไม่ทราบทั้งหมด
ฉะนั้นการเริ่มงานอื่นๆมันก็ต้องไม่สามารถกระทำได้ ถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญ คสช.และรัฐบาลก็ได้ประกาศตั้งแต่ 2 ปีก่อนแล้วว่า เราจำเป็นต้องเข้ามานั้นเพราะว่าบ้านเมืองมีปัญหา ที่ผ่านมาไม่มีใครยอมรับใครเปิดเจรจากี่เวทีก็ไม่ได้ผล แก้ทางนี้ติดทางโน้น ทั้งปัญหากฎหมายบ้านเมือง ปัญหาการเมือง ผลประโยชน์ส่วนตัว ทัศนคติ รวมแล้วสารพัดปัญหา ตั้งแต่ในบ้าน ที่ทำงาน พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนร่วมงาน พูดจาหารือกันไม่ได้เลย เข้าหน้ากันไม่ติด เพราะชอบคนละอย่าง ชอบคนละสี คิดคนละอย่าง เห็นต่างได้ แต่มันต้องมีความร่วมมือเกิดขึ้นให้ได้ บนท้องถนนก็มีปัญหา ต่างจังหวัดถึงในสภาฯ มีการยุบสภาฯ แล้ว ก็เลือกตั้งไม่ได้ ชาวไร่ชาวนาก็เดือดร้อน หนี้สินล้นพ้นตัว ข้าวราคาตก ยางราคาตก จ่ายเงินค่าจำนำข้าวอะไรไม่ได้เหล่านี้ มันมีปัญหาทั้งสิ้น นักลงทุนต่างชาติเขาก็เตรียมจะย้ายหนี เพราะไม่เชื่อมั่นว่ามันจะปลอดภัย ไม่นึกว่าพ้นจากปัญหาน้ำท่วมแล้วจะมาเจอปัญหาความแตกแยกในสังคมไทยที่น่าอยู่แบบเดิมๆ ไปจนทำมาหากินกันไม่ได้ แล้วก็มีหลายอย่างที่เป็นการทุจริต เราจะต้องนำสิ่งเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการแก้ไขให้ได้ทั้งหมด เราไม่อาจจะใช้อำนาจอื่นๆ นอกจากทางกระบวนยุติธรรมเท่านั้น ให้มีโอกาสต่อสู้คดีกันด้วยหลักฐานที่ถูกต้อง คสช.และรัฐบาลก็ได้แถลงว่า การที่เราขอเวลาเข้ามาแก้ปัญหาเดิมๆ นั้น เพื่อจะขอเวลาทำในเรื่องของการยุติความขัดแย้งและคืนความสุขให้แก่ประชาชน แน่นอนไม่ทุกคน คงพอใจไมได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็ทำให้เกิดเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่า ความสุขของทุกคนมันมีหลายคน หลายพวก หลายเหล่า ไม่ได้เฉพาะกลุ่มนี้กลุ่มโน้น มันไม่ได้ การชักนำอะไรต่างๆ ก็ตามทำให้คนส่วนใหญ่นั้นมันยาก ที่จะให้ทุกคนพอใจทั้งหมด แต่มันเป็นอนาคต เราจะได้สามารถก้าวไปข้างหน้าทุกคนมีทางเลือก มีโอกาส เราจะต้องวางรากฐานเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านั้นที่คั่งค้างมายาวนาน รวมไปถึงการเตรียมการแก้ปัญหาใหม่ๆ ที่มันจะเกิดขึ้น อย่างนี้เขาถึงเรียกว่า ปฏิรูปประเทศ มันจะต้องมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน เป้าหมายจะก้าวเดินต่อไปยังไง ทิศทางใดมีกรอบให้ชัดเจนขึ้น มองภาพอนาคตให้เห็น ให้ชัดเจน ผลดำเนินการ 2 ปีที่ผ่านมานั้น มีหลักฐานเชิงประจักษ์ ถึงความสำเร็จในการทำงาน เช่น
1.สหประชาชาติยูเอ็น ประกาศการจัดอันดับดัชนี e-Government ล่าสุดประเทศไทย “เลื่อนขึ้น” ถึง 25 อันดับจาก 102 ในปี 2014 ขึ้นเป็นอันดับที่ 77 ในปี 2016 ขึ้นมาหลายอันดับ จาก 102 เป็น 77 จาก 193 ประเทศทั่วโลก ทั้งหมดที่ประเมิน ก็ถือได้ว่า UN ให้ความยอมรับนโยบาย และการดำเนินการของรัฐบาลนี้ในเรื่องการขับเคลื่อนการปรับเปลี่ยนยกระดับกลไกภาครัฐในห้วง 2 ปีที่ผ่านมา
2.มหาวิทยาลัยวาเซดะ ของญี่ปุ่นประกาศผลการจัดอันดับ e-Government เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ในปี 2016 นี้ประเทศไทยได้อันดับที่ 21 จาก 65 ประเทศ ขยับ “ดีขึ้น”2 อันดับ จากปี 2014 ได้อันดับที่ 23 ขึ้น 2 อันดับนี่ก็ไม่ใช่ง่าย ๆ โดยรวมถึงภาพความก้าวหน้า สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินนโยบายภาครัฐของไทยนั้นดีขึ้น จากการจัดอันดับของ 2 สถาบันหลักซึ่งเป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติในด้านนี้และ
3 สถาบันและองค์กรต่างๆ ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ก็ได้ประเมินว่า สถานการณ์คอร์รัปชั่นของไทย ในสายตานานาชาติ ว่าดีที่สุด ในรอบ 6 ปี มีภาพลักษณ์โปร่งใส ดีที่สุด ในรอบ 10 ปี เป็นต้น เหล่านี้เป็นสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นคสช.และรัฐบาล ต้องขอบคุณที่ 2 ปีมานี้ ประชาชนโดยทั่วไปต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี กระตือรือร้นช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อย แก้ไขปัญหา และพัฒนาประเทศ ช่วยเป็นหูเป็นตาให้รัฐบาล ดังที่ผมได้รับข่าวจากพี่น้องทั้งหลาย ทั้งจากศูนย์ดำรงธรรม ศูนย์ร้องทุกข์อื่นๆ สื่อออนไลน์ และจดหมายที่ส่งตรงถึงผมทุกวันซึ่งผมได้อ่านทุกฉบับที่ส่งมา ทั้งภาคเอกชนเองก็ร่วมจับมือกันริเริ่มโครงการพัฒนาเรียกว่าสานพลังแนวทางประชารัฐ เพื่อช่วยเสริมโครงการของรัฐในด้านที่ตนถนัด รัฐบาลต้องขออภัย ที่ 2 ปี มานี้อาจทำให้สิทธิเสรีภาพบางอย่างของท่าน ไม่อาจใช้ได้เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็นที่ท่านต้องการ แต่ขอยืนยันว่าเราได้ทำเท่าที่จำเป็น และอยู่ภายใต้กรอบของหลักนิติธรรม ไม่ได้อยากทำอะไรตามอำเภอใจเพื่ออำนาจ เพื่อสร้างความหวาดกลัว หรือปราศจากเหตุผล หรือกลั่นแกล้งผู้ใดเลย ถ้าไม่มีเรื่องก็ไม่ต้องใช้หรอก เพราะเป็นการยากที่รัฐบาลจะอธิบายเหตุผลความจำเป็นดังกล่าวแก่ท่านทุกคนให้เข้าใจตรงกันในเวลาเดียวกัน เพราะแต่ละคนยังไม่เปลี่ยนแปลงตนเอง ทำอะไรตามอำเภอใจเพื่ออำนาจ เพื่อสร้างความหวาดกลัว หรือปราศจากเหตุผล หรือกลั่นแกล้งผู้ใดเลย ถ้าไม่มีเรื่องมันไม่ต้องใช้หรอกนะ มันเป็นการยากนะครับที่รัฐบาลจะอธิบายเหตุผลความจำเป็นดังกล่าวแก่ท่านทุกคนให้เข้าใจตรงกันในเวลาเดียวกัน เพราะต่างคนต่างยังไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง อย่างที่ท่านทราบอยู่แล้วว่าวันนี้เราเข้ามาทำอะไร รัฐบาลนี่ทราบทุกอย่าง ประชาชนอาจจะยังไม่ทราบทั้งหมดนะครับ ซึ่งผมก็ไม่สามารถอาจจะมาพูดได้ทั้งหมดในเวลานี้ ผมคิดว่าท่านคงเข้าใจ ท่านคงคิดอย่างเดียวกับรัฐบาล ในขณะเดียวกันโดยส่วนตัวแล้วนั้น ผมต้องขออภัยประชาชน เพื่อนร่วมงาน ข้าราชการ สื่อมวลชนด้วยนะครับ ในบางครั้งด้วยนิสัยของผมความเป็นทหาร มีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่น และมีความรู้สึกว่าต้องทำงานแข่งกับเวลา อาจทำให้ผมแสดงกริยาไม่เหมาะสม หงุดหงิด อารมณ์เสียไปบ้าง ต้องขอโทษด้วยแล้วกัน ไม่มีเจตนาอะไรกับใครทั้งสิ้น
ทั้งนี้เพื่อให้การเดินหน้า การทำงานจากนโยบายของรัฐบาล และ คสช.นั้นไปได้โดยเร็ว อีกเรื่องสำคัญคือ เรามีความจำเป็นให้มีการจัดให้มีรัฐธรรมนูญขึ้น เพื่อสำหรับใช้เป็นกติกา ยกตัวอย่างเช่นเมื่อจะเล่นกีฬาอะไรก็ตามไม่มีกติกาเล่นไม่ได้หรอกครับ เริ่มต้นให้ได้ก่อน กติกาค่อยว่าไง วันนี้มีกติกา ดีกว่าไม่มีแล้วไปแก้ไขมันไม่ได้ทั้งสิ้น
ตอนนั้นค่อยพูดถึงว่า คนเล่นมันจะทำยังไงกันต่อไป ฉบับเทคนิคอะไรต่างๆ กฎข้อห้ามตามมาอีก รัฐธรรมนูญต้องมีกฎหมายลูก กฎหมายอื่นๆ กฎกระทรวง ระเบียบสำนักนายกฯ มันต้องสอดคล้องกันทั้งหมด ไม่ใช่รัฐธรรมนูญเป็นตัวกำหนดเองทั้งหมด กรอบต้องกว้างจากนั้นกฎหมายทุกกฎหมายก็ตามมาจากรัฐธรรมนูญ
วันนี้ทุกคนให้ความสำคัญกับรัฐธรรมนูญถูกต้อง แต่ไม่สนใจกับกฎหมายที่รองรับอยู่ข้างหน้า หรือกฎหมายทั่วไป มันไม่ใช่นะครับ เพราะกฎหมายต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ถ้าท่านเคารพรัฐธรรมนูญ ท่านต้องพยายามให้ความสำคัญกับกฎหมายทุกฉบับด้วย อันนั้นคือประเด็นสำคัญของผม เราได้มีการร่างมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกได้มอบให้คณะกรรมการชุด อ.บวรศักดิ์ เป็นผู้ยกร่างกติกาเหล่านี้ หลายอย่างก็อยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถึงแม้จะไม่ผ่านความเห็นชอบก็ตาม ก็ต้องจัดทำใหม่ และให้คณะกรรมการชุด อ.มีชัย เข้ามาทั้ง 2 คณะมีความตั้งใจอย่างสูงยิ่งในการที่จะทำให้บ้านเมืองมันพ้นผ่านไปได้ มันต้องมีกติกาหลายอย่างขึ้นมา กติกาเกิดมาจากอะไรล่ะครับ ก็ต้องเกิดมาจากสิ่งที่มันผิดพลาดในอดีต เพื่อจะสร้างอนาคตให้ได้ก่อนในช่วงนี้ให้เปลี่ยนผ่านให้ได้ เรากำลังจะลงประชามติกันอีก 2 วันนี้ ผมขอเชิญชวนพี่น้องทุกท่านที่ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป ออกไปใช้สิทธิ์ลงประชามติให้ไปกันให้ถล่มทลายนะครับ ผมไม่ต้องการว่าเปอร์เซ็นต์ ไปกันให้มากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ชาติไทย ผมขอร้อง ไปให้เต็ม ไม่ต้องกลัว แสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ แล้วใครก็ตามที่ทำให้เกิดความวุ่นวายสับสนอลหม่าน เกิดการบาดเจ็บ สูญเสียอะไรก็แล้วแต่ จะลงโทษอย่างเด็ดขาดในทุกอำนาจที่ผมมีอยู่ ท่านจะลงประชามติอย่างไรก็สุดแท้แต่วิจารณญาณของท่าน ตามความเข้าใจของท่าน กรุณานึกถึงบ้านเมือง นึกถึงอนาคต นึกถึงลูกหลาน นึกถึงความมีเสถียรภาพของรัฐบาล นึกถึงโรดแมปอะไรต่างๆ เหล่านี้ อย่าใช้อารมณ์ความรู้สึก ที่บางคนพยายามสร้างภาพกลับไปกลับมากันอยู่ตอนนี้ อย่าสับสนนะครับ ท่าน อ.มีชัย ได้ชี้แจงแล้ว ทาง สนช. ท่านรองประธาน สนช.ก็ออกมาชี้แจงแล้ว ทั้งในเรื่องของรัฐธรรมนูญ เรื่องคำถามพ่วงอะไรเหล่านี้ 1 คน 1 เสียง ผมก็มี 1 เสียงเท่าท่านแหละ สำหรับใครก็ตามออกมาพูดความคิดเห็นเหล่านี้ ผมไม่ได้ห้าม เพราะฉะนั้นท่านจะมาห้ามผมตลอดเวลาคงไม่ได้มั้ง เราจะทำให้บ้านเมือง เดินหน้าต่อไปให้ได้ก็ต้องมีกติกาบ้าง
การลงประชามติเป็นโอกาส อย่าทำให้โอกาสนี้มันเป็นประเด็นความขัดแย้งขึ้นมาใหม่ เป็นวิกฤตการทำร้ายประเทศ รัฐบาลยอมรับได้ทุกอย่าง ก็ขอให้ประชาชนยอมรับไปด้วย เมื่อมันจะเกิดอะไรตามมา ถ้าหากผ่านหรือไม่ผ่าน บ้านเมืองยังเดินต่อไปได้ไหมอย่างสงบสุขได้หรือไม่ นี่คือกติกานั่นเอง ถ้าผ่านก็จะมีการประกาศใช้ มีการจัดทำกฎหมายที่จำเป็นต่อการเลือกตั้ง จัดให้มีการเลือกตั้ง แถลงหลายครั้งแล้วนะครับทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ปี 60 ถ้าไม่ผ่านก็จำเป็นต้องจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อยู่ดี ก็ต้องทำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ไม่กระทบกับโรดแมป หลายคนก็จับจ้องตรงนี้ ถ้าตรงนี้มันไปไม่ได้ มันก็ไปถึงตรงนู้นไม่ได้ ท้ายสุดก็กดดันรัฐบาล คสช.อยู่ดี
ผมขอให้พี่น้องทุกท่านอย่าวิตกกังวลกับสถานการณ์ของประเทศจะเปลี่ยนแปลงด้วยประเด็นเหล่านี้ไม่ได้หรอกครับ ทุกอย่างต้องเดินหน้าไปตามนี้ ถึงยังไงประโยชน์ของบ้านเมืองมาก่อน
ผมไม่ยอมอยู่แล้ว ทุกอย่างต้องเดินหน้าไปตามนี้ ถึงอย่างไรประโยชน์ของบ้านเมืองก็ต้องมาก่อน ประโยชน์ส่วนบุคคลมีได้อย่างถูกกฎหมายแต่ต้องมาทีหลัง การทำงานถ้าไม่มีกรอบเดินหน้าไม่ได้ ไม่ว่าจะวิธีใดก็ตาม ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่าน บ้านเมืองของเรานั้นก็ยังมีเรื่องต้องทำอีกมาก เราจะรอรัฐบาลหน้ามาแล้วค่อยทำไม่ได้ ที่ผ่านมาเราก็รอมานานแล้ว เช่น การฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการบรรเทาทุกข์เกษตรกรที่เป็นความยั่งยืน เราต้องผลักดันการปฏิรูปประเทศหลายๆ ด้าน ลดความเหลื่อมล้ำ การดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงวัย ผู้ด้อยโอกาส การศึกษา การรักษาพยาบาล เยอะแยะไปหมด งบประมาณก็จำกัด มันจะต้องพัฒนาทั้งหมดนั้น ผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจจากภายใน ปรับโครงสร้างการผลิต โครงสร้างพื้นฐาน ต้องวางรากฐานการจัดการศึกษา การรักษาพยาบาลให้มันดีขึ้นกว่าเดิม แก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ตลอดจนขจัดการคอร์รัปชันให้ได้มากที่สุด มันไม่ได้แก้ง่ายๆ ต้องแก้ทั้งระบบ หลายคนเกี่ยวข้อง สั่งไปอย่างเดียวมันบางทีก็ไม่ได้ผล 100% อยู่แล้ว ต้องติดตาม ดำเนินคดีเยอะแยะไปหมด มันเป็นภาระที่มันรุงรังอยู่ขณะนี้
ดังนั้นไม่ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน เราก็คงต้องรักษาคำพูดว่า เราจะอยู่เคียงคู่พี่น้องประชาชนต่อไปเท่าที่เวลาเปิดโอกาสให้ทำ เพื่อจะดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ตราบจนกระทั่งสามารถส่งต่อภารกิจให้รัฐบาลใหม่ หลังเลือกตั้งได้เรียบร้อย โดยไม่มีการสืบทอดอำนาจ ทุกอย่างจะเป็นไปโดยวิถีทางของประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าฉบับนี้หรือฉบับไหนก็ตาม และจะไม่ยอมให้ผู้ใดก่อความเดือดร้อนวุ่นวาย ฉวยโอกาสทำผิดกฎหมาย สร้างความขัดแย้ง หรือขัดขวางการพัฒนา และการปฏิรูปประเทศเป็นอันขาด
เมื่อผลการออกเสียงประชามติปรากฏชัดเจนไม่ว่าจะเป็นประการใด คสช. และรัฐบาล จะได้ชี้แจงแนวทางปฏิบัติให้ทราบ เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าโดยราบรื่น พี่น้องทั้งหลายจะได้คลายกังวลว่าทุกอย่างยังคงอยู่ใต้การดูแลเป็นปกติ เหมือน 2 ปีที่ผ่านมาที่ท่านไว้ใจเรา และผมจะได้ชี้แจงแนวทางดังกล่าวผ่านทางสื่อมวลชนให้ท่านทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ขอบคุณอีกครั้งในความร่วมมือทุกประการของทุกคน ร่วมมืออกมาให้เต็มบ้านเต็มเมืองเลยนะครับ ขอบพระคุณครับ/ สวัสดีครับ