ที่ประชุมสุดยอดของรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจและการค้าของสมาคมแห่งประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ออกแถลงการณ์ร่วมกันหลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันนี้ คาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในอาเซียนซึ่งมีสมาชิก 10 ประเทศ อาจลดลงจากร้อยละ 4.7 เมื่อปีที่แล้ว เหลือร้อยละ 4.5 ในปีนี้ ซึ่งเป็นผลกระทบเนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวน หลังสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ตามผลประชามติเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน
ในส่วนมูลค่าการค้าระหว่างประเทศ จีนยังคงครองอันดับ 1 ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอาเซียน ด้วยสัดส่วนร้อยละ 15 ของมูลค่าการค้าทั้งหมด 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสที่สองของปีนี้ ตามด้วยญี่ปุ่น อียู และสหรัฐฯ ขณะที่ราวร้อยละ 25 ของมูลค่าการค้าทั้งหมดในช่วงเวลาเดียวกัน เป็นการค้าขายระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกัน ที่ประกอบด้วย บรูไน กัมพูชา พม่า มาเลเซีย ไทย ลาว เวียดนาม ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย
ในส่วนมูลค่าการค้าระหว่างประเทศ จีนยังคงครองอันดับ 1 ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอาเซียน ด้วยสัดส่วนร้อยละ 15 ของมูลค่าการค้าทั้งหมด 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสที่สองของปีนี้ ตามด้วยญี่ปุ่น อียู และสหรัฐฯ ขณะที่ราวร้อยละ 25 ของมูลค่าการค้าทั้งหมดในช่วงเวลาเดียวกัน เป็นการค้าขายระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกัน ที่ประกอบด้วย บรูไน กัมพูชา พม่า มาเลเซีย ไทย ลาว เวียดนาม ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย