อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้พร้อมใจประณาม หลังจากเมื่อเช้าวันพุธ (3 ส.ค.) โสมแดงท้าทายมติยูเอ็น โดยยิงขีปนาวุธไปตกในน่านน้ำซึ่งอยู่ในความควบคุมของญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปี และยังทำให้สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ขณะที่วอชิงตัน-โซลกำลังจะเริ่มการซ้อมรบใหญ่ประจำปีในปลายเดือนนี้
นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ออกมาแถลงว่า การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเช่นนี้ เป็น “ภัยคุกคามร้ายแรง” ต่อญี่ปุ่น และสำทับว่า โตเกียวประท้วงเรื่องนี้อย่างหนักแน่น นอกจากนั้น กองกำลังป้องกันตนเองหรือก็คือกองทัพญี่ปุ่น ยังได้รับคำสั่งให้อยู่ในสถานะเตรียมพร้อมต่อไป เพื่อรับมือกรณีที่เกาหลีเหนืออาจยิงขีปนาวุธอีก
ขณะที่โยชิฮิเดะ ซูงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีและหัวหน้าโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นสำทับว่า นี่เป็นครั้งแรกนับจากปี 1998 ที่เกาหลีเหนือยิงจรวดไปตกในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น มิหนำซ้ำยังไม่มีการเตือนล่วงหน้า จึงถือเป็นการกระทำที่อันตรายอย่างยิ่งในแง่ความปลอดภัยของเครื่องบินและเรือ
ส่วนที่กรุงวอชิงตัน โฆษกการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ประณามการกระทำของเกาหลีเหนือว่า รังแต่จะทำให้นานาชาติต้องเพิ่มมาตรการต่อต้านและลงโทษเปียงยางให้มากขึ้น
ทางด้าน เกาหลีใต้ ออกคำแถลงประท้วงอย่างรุนแรงเช่นกัน โดยระบุว่าการกระทำเช่นนี้แสดงถึงความกระตือรือร้นของเปียงยางในการโจมตีเพื่อนบ้านโดยตรงและอย่างกว้างขวาง นอกจากนั้นยังมีการเล็งเป้าหมายหลายจุดในเกาหลีใต้ เช่น ท่าเรือและสนามบิน โดยจรวดที่ยิงล่าสุดมีแนวโน้มเป็นจรวดพิสัยกลางโรดองที่มีพิสัยทำการประมาณ 1,000 กิโลเมตร
นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ออกมาแถลงว่า การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเช่นนี้ เป็น “ภัยคุกคามร้ายแรง” ต่อญี่ปุ่น และสำทับว่า โตเกียวประท้วงเรื่องนี้อย่างหนักแน่น นอกจากนั้น กองกำลังป้องกันตนเองหรือก็คือกองทัพญี่ปุ่น ยังได้รับคำสั่งให้อยู่ในสถานะเตรียมพร้อมต่อไป เพื่อรับมือกรณีที่เกาหลีเหนืออาจยิงขีปนาวุธอีก
ขณะที่โยชิฮิเดะ ซูงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีและหัวหน้าโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นสำทับว่า นี่เป็นครั้งแรกนับจากปี 1998 ที่เกาหลีเหนือยิงจรวดไปตกในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น มิหนำซ้ำยังไม่มีการเตือนล่วงหน้า จึงถือเป็นการกระทำที่อันตรายอย่างยิ่งในแง่ความปลอดภัยของเครื่องบินและเรือ
ส่วนที่กรุงวอชิงตัน โฆษกการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ประณามการกระทำของเกาหลีเหนือว่า รังแต่จะทำให้นานาชาติต้องเพิ่มมาตรการต่อต้านและลงโทษเปียงยางให้มากขึ้น
ทางด้าน เกาหลีใต้ ออกคำแถลงประท้วงอย่างรุนแรงเช่นกัน โดยระบุว่าการกระทำเช่นนี้แสดงถึงความกระตือรือร้นของเปียงยางในการโจมตีเพื่อนบ้านโดยตรงและอย่างกว้างขวาง นอกจากนั้นยังมีการเล็งเป้าหมายหลายจุดในเกาหลีใต้ เช่น ท่าเรือและสนามบิน โดยจรวดที่ยิงล่าสุดมีแนวโน้มเป็นจรวดพิสัยกลางโรดองที่มีพิสัยทำการประมาณ 1,000 กิโลเมตร
