ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม พร้อมทีมทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นิติพัฒน์ วุฒิบุณยสิทธิ์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช. ในข้อหาหมิ่นประมาท หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ,เผยแพร่ข้อความอันเป็นหมิ่นประมาทเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พร้อมหลักฐานภาพถ่ายข้อความจากเฟซบุ๊กคู่กรณี ช่วงระหว่างวันที่ 16 พ.ค. จนถึงวันที่ 30 พ.ค. มามอบให้ทางตำรวจด้วย
โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวว่า ที่เดินทางมาแจ้งความสืบเนื่องมาจาก ก่อนหน้านี้ตนได้ไปยื่นหนังสือกับทางกรมสอบสวนคดีเพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ นายจตุพร จาบจ้วงดูหมิ่นเจ้าหน้าที่รัฐว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอทำงานสองมาตรฐาน ไม่บังคับใช้กฎหมาย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งได้อ้างว่ามีการกล่าวหาตนว่ามีคดีติดตัวตั้ง 9 คดี มีโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต แต่กลับปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งที่จริงวันนี้ตนได้สอบถามอัยการได้บอกว่ามีเพียงแค่ 2 คดี คือข้อหากบฏ และขัดขวางการเลือกตั้ง ซึ่งตนไม่รู้ว่า นายจตุพร ไปเอาข้อหาอะไรมายัดเยียดให้ถึง 9 คดี ทำให้ชัดเจนว่า นายจตุพร ตั้งใจใส่ร้ายป้ายสีตนให้เกิดความเสื่อมเสีย และทำมาหลายครั้ง เตือนแล้วบอกแล้วก็ยังทำซ้ำอีก ตนเห็นว่าใกล้จะหมดอายุความ จึงเดินทางมาแจ้งความดังกล่าว
หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวอีกว่า อันที่จริงตนไม่ได้อยากแจ้งความ แต่ทุกวันนี้เจ้าตัวก็ยังพยายามใส่ร้ายตนอยู่ ซึ่งสาเหตุที่มาแจ้งความกับทาง บก.ปอท. เนื่องทางดีเอสไอไม่สามารถรับเรื่องเกี่ยวการใส่ร้ายตัวบุคคลได้ จึงต้องมาแจ้งความที่นี่
โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวว่า ที่เดินทางมาแจ้งความสืบเนื่องมาจาก ก่อนหน้านี้ตนได้ไปยื่นหนังสือกับทางกรมสอบสวนคดีเพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ นายจตุพร จาบจ้วงดูหมิ่นเจ้าหน้าที่รัฐว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอทำงานสองมาตรฐาน ไม่บังคับใช้กฎหมาย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งได้อ้างว่ามีการกล่าวหาตนว่ามีคดีติดตัวตั้ง 9 คดี มีโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต แต่กลับปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งที่จริงวันนี้ตนได้สอบถามอัยการได้บอกว่ามีเพียงแค่ 2 คดี คือข้อหากบฏ และขัดขวางการเลือกตั้ง ซึ่งตนไม่รู้ว่า นายจตุพร ไปเอาข้อหาอะไรมายัดเยียดให้ถึง 9 คดี ทำให้ชัดเจนว่า นายจตุพร ตั้งใจใส่ร้ายป้ายสีตนให้เกิดความเสื่อมเสีย และทำมาหลายครั้ง เตือนแล้วบอกแล้วก็ยังทำซ้ำอีก ตนเห็นว่าใกล้จะหมดอายุความ จึงเดินทางมาแจ้งความดังกล่าว
หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวอีกว่า อันที่จริงตนไม่ได้อยากแจ้งความ แต่ทุกวันนี้เจ้าตัวก็ยังพยายามใส่ร้ายตนอยู่ ซึ่งสาเหตุที่มาแจ้งความกับทาง บก.ปอท. เนื่องทางดีเอสไอไม่สามารถรับเรื่องเกี่ยวการใส่ร้ายตัวบุคคลได้ จึงต้องมาแจ้งความที่นี่