เจ้าหน้าที่ทางการออสเตรเลีย กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่มีความเสี่ยงสูงว่าจะก่อคดีก่อการร้าย จะถูกคุมขังในเรือนจำต่อหลังสิ้นสุดโทษคุมขัง ทั้งนี้ เป็นการดำเนินการเพื่อเตรียมรับมือการก่อการร้ายหลังเกิดเหตุโจมตีในสหรัฐฯ และยุโรป
นายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูล ของออสเตรเลีย กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุรุนแรงในเมืองออร์แลนโดของสหรัฐฯ เมืองนีซของฝรั่งเศส และเหตุก่อการร้ายอื่นๆ ตามที่ต่างๆ รวมถึงจากประสบการณ์ของออสเตรเลียเอง จึงไม่สามารถใช้มาตรการเดิมได้ และเพื่อเป็นการรับมือกับภัยคุกคามที่พัฒนาขึ้น ออสเตรเลียจึงต้องแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายความมั่นคง ที่มีมาตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งจะส่งตัวผู้ก่อการร้ายที่มีความเสี่ยงสูงไปอยู่ในการควบคุมหลังจากครบกำหนดคุมขังแล้ว โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะอนุญาตให้มีการคุมขังเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายที่ยังคงแสดงตัวว่ามีความเสี่ยงสูงต่อชุมชน
ด้านนายจอร์จ แบรนดิส อัยการสูงสุดออสเตรเลีย กล่าวว่า การขยายเวลาควบคุมตัวจะเป็นไปตามการควบคุมดูแลของศาลเพื่อทบทวนและประเมินตามปกติ
นายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูล ของออสเตรเลีย กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุรุนแรงในเมืองออร์แลนโดของสหรัฐฯ เมืองนีซของฝรั่งเศส และเหตุก่อการร้ายอื่นๆ ตามที่ต่างๆ รวมถึงจากประสบการณ์ของออสเตรเลียเอง จึงไม่สามารถใช้มาตรการเดิมได้ และเพื่อเป็นการรับมือกับภัยคุกคามที่พัฒนาขึ้น ออสเตรเลียจึงต้องแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายความมั่นคง ที่มีมาตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งจะส่งตัวผู้ก่อการร้ายที่มีความเสี่ยงสูงไปอยู่ในการควบคุมหลังจากครบกำหนดคุมขังแล้ว โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะอนุญาตให้มีการคุมขังเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายที่ยังคงแสดงตัวว่ามีความเสี่ยงสูงต่อชุมชน
ด้านนายจอร์จ แบรนดิส อัยการสูงสุดออสเตรเลีย กล่าวว่า การขยายเวลาควบคุมตัวจะเป็นไปตามการควบคุมดูแลของศาลเพื่อทบทวนและประเมินตามปกติ