พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านโป่ง เปิดเผยว่าได้รับแจ้งว่ามีแรงงานพม่าจำนวน 137 คน ภายในโรงงานเส้นหมี่แห่งหนึ่งในตำบลคุ้งพะยอม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี กำลังประท้วงเพื่อเรียกร้องให้โรงงานได้ทำการจ่ายค่าแรงให้ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนายพงษ์ศักดิ์ ชื่นประเสริฐ เจ้าหน้าที่สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เจ้าหน้าที่จากสถานทูตพม่า เจ้าหน้าที่ที่จัดส่งแรงงานข้ามชาติ และเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลพัฒนาที่ 1 กำลังเข้าพูดคุยกับตัวแทนแรงานพม่า ซึ่งทราบว่าสาเหตุที่แรงงานพม่าทั้งหมดนั้นได้เดินทางเข้าประเทศไทยด้าน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีนายหน้าพาเข้าทำงานที่โรงงานแห่งนี้เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา โดยมีการทำสัญญากับทางโรงงานไว้ 2 ปี แต่เมื่อช่วงวันที่16-30 มิถุนายน ที่ผ่านมาแรงงานพม่าเหล่านี้ยังไม่ได้รับค่าจ้าง ซึ่งมีกำหนดจะจ่ายให้ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2559 และค่าจ้างในวันที่ 1-15 กรกฎาคม 2559 จะมีกำหนดจ่ายในวันที่ 29 กรกฎาคม 2559 นั้นก็กำลังจะครบกำหนดแล้ว แรงงานพม่าเหล่านี้จึงเกรงว่าถ้าปล่อยให้ครบ 2 งวด ก็อาจจะไม่ได้รับค่าจ้าง จึงได้พร้อมใจกันเก็บข้าวของออกมาจากโรงงานและรวมตัวประท้วงที่บริเวณศาลาเอนกประสงค์วัดโพธิ์บัลลังก์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับโรงงาน เพื่อเรียกร้องค่าแรงที่ได้ทำงานไป และเรียกร้องขอลาออกจากโรงงานพร้อมกับให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดส่งกลับประเทศเมียนมาด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญนายไกรวิทย์ สิทธินันทวัฒน์ ผู้จัดการฝ่ายบุคคลของโรงงานดังกล่าว มาพูดคุยเพื่อหาข้อตกลง โดยนายไกรวิทย์ ก็ยอมรับว่าปัจจุบันผลประกอบการของทางโรงงานไม่ดี จึงทำให้เกิดปัญหาด้านการเงิน แต่ค่าแรงงานของแรงงานพม่างวดแรกที่ค้างนั้นจะจ่ายให้ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2559 ที่จะถึงนี้ ส่วนค่าแรงงวดที่สองก็จะจ่ายให้ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2559 และขอให้แรงงานทั้งหมดนั้นกลับไปทำงานเพราะถ้ามีการลาออกทั้งหมดก็เกรงว่าอาจจะเกิดผลกระทบต่อโรงงานได้ และต่อไปจะจ่ายเงินค่าแรงให้ตรงทุกงวด แต่แรงงานทั้งหมดก็ยังไม่ยอมโดยเรียกร้องขอพบกับนายออง ซู ตัน ทูตแรงงานพม่า เพื่อให้มาร่วมทำข้อตกลงกับโรงงานว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญนายไกรวิทย์ สิทธินันทวัฒน์ ผู้จัดการฝ่ายบุคคลของโรงงานดังกล่าว มาพูดคุยเพื่อหาข้อตกลง โดยนายไกรวิทย์ ก็ยอมรับว่าปัจจุบันผลประกอบการของทางโรงงานไม่ดี จึงทำให้เกิดปัญหาด้านการเงิน แต่ค่าแรงงานของแรงงานพม่างวดแรกที่ค้างนั้นจะจ่ายให้ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2559 ที่จะถึงนี้ ส่วนค่าแรงงวดที่สองก็จะจ่ายให้ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2559 และขอให้แรงงานทั้งหมดนั้นกลับไปทำงานเพราะถ้ามีการลาออกทั้งหมดก็เกรงว่าอาจจะเกิดผลกระทบต่อโรงงานได้ และต่อไปจะจ่ายเงินค่าแรงให้ตรงทุกงวด แต่แรงงานทั้งหมดก็ยังไม่ยอมโดยเรียกร้องขอพบกับนายออง ซู ตัน ทูตแรงงานพม่า เพื่อให้มาร่วมทำข้อตกลงกับโรงงานว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
