พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่มีการทำลายเอกสารที่เกี่ยวกับการทำประชามติในหลายพื้นที่ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบในสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีการขยายการกระทำในลักษณะดังกล่าวไปในวงกว้าง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเต็มความสามารถ ทั้งนี้มองว่าการกระทำดังกล่าวจะไม่เป็นการชี้นำให้ประชาชนรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจและให้ความรู้กับประชาชน ภายใต้กรอบของกฎหมายมาโดยตลอด การตัดสินใจเป็นดุลยพินิจของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ในภาพรวมการทำประชามติในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ สถานการณ์ยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยจะไม่มีการสั่งการ หรือบังคับใช้กฎหมายพิเศษใดๆเพิ่มเติม ส่วนในวันที่ 7 สิงหาคมนั้นเชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยดูแลพื้นที่ของตนเองอย่างเคร่งครัด มีกระบวนการในการดูแล รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากประชาชน ภาคประชาสังคม ซึ่งเชื่อว่าการลงประชามติจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ทั้งนี้ทางทหาร ไม่มีการส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่แต่อย่างใด กำลังหลักที่ดูแลจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร้องขอการสนับสนุนไป คาดว่าจากวันนี้จนถึงวันที่ 7 สิงหาคม จะยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และประชาชนจะออกมาใช้สิทธิ์ตามเป้าที่ คสช.ตั้งไว้ ส่วนกรณีที่พบว่าผู้ที่กระทำความผิดในการทำลายเอกสารการทำประชามติเป็นเด็กนั้น ทราบเบื้องต้นว่าในทางกฎหมายถือว่าเป็นการกระทำความผิด ซึ่งแม้ว่าจะทำผิดกฎหมาย แต่ไม่ได้มีการลงโทษเด็ก เพราะเจ้าหน้าที่มองว่าเด็กไปเล่นในคูหา อีกทั้งส่วนตัวเชื่อว่าไม่มีการยืมมือเด็กไปทำลาย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะต้องป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลาน และให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังว่าเป็นพื้นที่ใด เพื่อปรับการดูแลให้เหมาะสม
ทั้งนี้ทางทหาร ไม่มีการส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่แต่อย่างใด กำลังหลักที่ดูแลจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร้องขอการสนับสนุนไป คาดว่าจากวันนี้จนถึงวันที่ 7 สิงหาคม จะยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และประชาชนจะออกมาใช้สิทธิ์ตามเป้าที่ คสช.ตั้งไว้ ส่วนกรณีที่พบว่าผู้ที่กระทำความผิดในการทำลายเอกสารการทำประชามติเป็นเด็กนั้น ทราบเบื้องต้นว่าในทางกฎหมายถือว่าเป็นการกระทำความผิด ซึ่งแม้ว่าจะทำผิดกฎหมาย แต่ไม่ได้มีการลงโทษเด็ก เพราะเจ้าหน้าที่มองว่าเด็กไปเล่นในคูหา อีกทั้งส่วนตัวเชื่อว่าไม่มีการยืมมือเด็กไปทำลาย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะต้องป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลาน และให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังว่าเป็นพื้นที่ใด เพื่อปรับการดูแลให้เหมาะสม