กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนคดีการครอบครองรถจดประกอบเลี่ยงภาษี ว่าตามที่ดีเอสไอส่งข้อมูลการตรวจสอบรถยนต์เลี่ยงภาษีไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินภาษีกว่า 500 คัน ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้รับการประสานข้อมูลการประเมินภาษีจากกรมศุลกากรและกรมสรรพสามิตหลายคัน โดยมีการประเมินภาษีส่วนที่ชำระไว้ขาดพร้อมค่าปรับว่าแต่ละคันต้องชำระเพิ่มจำนวนเท่าใดบ้าง ขณะที่รถของกลางจะถูกตามยึดและส่งให้ศุลกากรนำไปประมูลขายทอดตลาดตามกฎหมายต่อไป สำหรับพฤติการณ์ซึ่งเป็นแผนประทุษกรรมในคดีรถจดประกอบจะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน คือนำเข้ารถทั้งคันแต่สำแดงเอกสารว่าเป็นการแยกชิ้นส่วนนำเข้ามาจดประกอบในไทย และแจ้งใช้งานเชื้อเพลิงเป็นก๊าซหุงต้ม แต่ไม่ได้ติดตั้งระบบก๊าซจริง เมื่อจดทะเบียนเสร็จสิ้นก็จะถอดอุปกรณ์ถังแก๊สออก เนื่องจากรถซุปเปอร์คาร์และรถหรูจะไม่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง โดยในจำนวนรถที่มีการประเมินภาษีในส่วนที่ชำระไว้ขาดนั้น มีรถเบนซ์คลาสสิคของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จฯช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราชรวมอยู่ด้วย
ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบหลักฐานในสำนวนคดีว่าครบถ้วนเพียงพอหรือไม่ หากเอกสารหลักฐานที่มีในประเทศเพียงพอสรุปสำนวนได้ก็อาจไม่จำเป็นต้องรอหลักฐานการส่งออกรถคันดังกล่าวจากประเทศต้นทาง
สำหรับคดีการนำเข้ารถจดประกอบเลี่ยงภาษีจะแบ่งความรับผิดทางอาญาและทางภาษีออกเป็นหลายส่วนทั้งการนำเข้า การจดประกอบ การยื่นขอจดทะเบียน การชำระภาษีเป็นเท็จ และการครอบครองรถผิดกฎหมาย โดยรถเบนซ์คลาสสิค ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร ในความครอบครองของสมเด็จฯช่วง ก่อนหน้านี้มีข้อมูลเป็นเอกสารระบุว่ารถคันดังกล่าวมีการสำแดงนำเข้า 1,665 เหรียญสหรัฐ หรือเป็นเงินไทยประมาณกว่า 51,000 บาท ชำระออกอากรขาเข้าประมาณ 41,000 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่มกว่า 6,400 บาท รวมภาษีที่จ่ายไว้กว่า 290,000 บาท ขณะที่รถดังกล่าวมีการประเมินราคาเฉลี่ยที่ 60,000-80,000 เหรียญสหรัฐ หรือกว่า 1,800,000 บาทมีอัตราภาษีจริงกว่า 3,500,000 บาท ดังนั้นจึงมีส่วนที่ต้องชำระภาษีเพิ่มอีกกว่า 3,200,000 บาท ในจำนวนยังไม่รวมค่าปรับเพิ่มอีก 4 เท่า ขณะนี้รถคันดังกล่าวทางวัดปากน้ำฯได้ส่งมอบให้ดีเอสไอยึดไว้เป็นของกลางในคดี ส่วนประเด็นที่ว่าใครจะต้องรับผิดในส่วนใดบ้างนั้น ยังต้องรอการสรุปสำนวนคดีของพนักงานสอบสวน
ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบหลักฐานในสำนวนคดีว่าครบถ้วนเพียงพอหรือไม่ หากเอกสารหลักฐานที่มีในประเทศเพียงพอสรุปสำนวนได้ก็อาจไม่จำเป็นต้องรอหลักฐานการส่งออกรถคันดังกล่าวจากประเทศต้นทาง
สำหรับคดีการนำเข้ารถจดประกอบเลี่ยงภาษีจะแบ่งความรับผิดทางอาญาและทางภาษีออกเป็นหลายส่วนทั้งการนำเข้า การจดประกอบ การยื่นขอจดทะเบียน การชำระภาษีเป็นเท็จ และการครอบครองรถผิดกฎหมาย โดยรถเบนซ์คลาสสิค ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร ในความครอบครองของสมเด็จฯช่วง ก่อนหน้านี้มีข้อมูลเป็นเอกสารระบุว่ารถคันดังกล่าวมีการสำแดงนำเข้า 1,665 เหรียญสหรัฐ หรือเป็นเงินไทยประมาณกว่า 51,000 บาท ชำระออกอากรขาเข้าประมาณ 41,000 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่มกว่า 6,400 บาท รวมภาษีที่จ่ายไว้กว่า 290,000 บาท ขณะที่รถดังกล่าวมีการประเมินราคาเฉลี่ยที่ 60,000-80,000 เหรียญสหรัฐ หรือกว่า 1,800,000 บาทมีอัตราภาษีจริงกว่า 3,500,000 บาท ดังนั้นจึงมีส่วนที่ต้องชำระภาษีเพิ่มอีกกว่า 3,200,000 บาท ในจำนวนยังไม่รวมค่าปรับเพิ่มอีก 4 เท่า ขณะนี้รถคันดังกล่าวทางวัดปากน้ำฯได้ส่งมอบให้ดีเอสไอยึดไว้เป็นของกลางในคดี ส่วนประเด็นที่ว่าใครจะต้องรับผิดในส่วนใดบ้างนั้น ยังต้องรอการสรุปสำนวนคดีของพนักงานสอบสวน