นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ประชาชนทยอยเดินทางกลับ ซึ่งสภาพอากาศช่วงนี้ค่อนข้างร้อนสลับกับมีฝนตกบางพื้นที่ ขอให้ผู้ขับขี่รถใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ และปฏิบัติตัวดังนี้ 1.ก่อนเดินทางต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7-9 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งยาที่ทำให้ง่วงซึม 2.ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่ขับรถเร็ว เมาไม่ขับ ไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ เผื่อเวลาการเดินทางให้มากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ
3.ควรหยุดพักระหว่างทางทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือทุก 150 กิโลเมตร แม้ว่าจะยังไม่รู้สึกเหนื่อย ที่สำคัญเมื่อรู้สึกง่วง อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า อย่าฝืนขับ ให้เปลี่ยนคนขับ หรือแวะจอดรถในที่ปลอดภัยและงีบหลับประมาณ 15 นาที
4.กรณีมีฝนตกหนัก หรือเส้นทางที่หมอกลงจัด ทำให้ทัศนะวิสัยในการมองเห็นลดลง ควรเปิดโคมไฟใหญ่หรือไฟต่ำหรือไฟตัดหมอก เพื่อให้มองเห็นสภาพเส้นทางได้ชัดเจนขึ้น ขับช้าๆ ไม่แซง หรือเปลี่ยนช่องการจราจรอย่างกะทันหัน
นพ.ปิยะสกล กล่าวต่อว่า ได้กำชับให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ 855 แห่ง เตรียมพร้อมใน 2 ส่วน คือ ความพร้อมในโรงพยาบาลโดยเตรียมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ยา เวชภัณฑ์ ห้องผ่าตัด คลังเลือด เครื่องช่วยหายใจ สำรองเตียงว่าง และส่วนที่ 2 คือความพร้อมของทีมที่ออกไปดูแลผู้ป่วย ณ จุดเกิดเหตุ โดยจัดทีมแพทย์ฉุกเฉินทุกระดับจำนวน 15,223 ทีม พร้อมรถพยาบาลที่มีเครื่องมือช่วยชีวิต เพื่อให้การดูแลประชาชนที่เดินทางกลับจากเทศกาลเข้าพรรษาให้ดีที่สุด ประชาชนพบเห็นการเกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บ/เจ็บป่วยฉุกเฉินโทรขอความช่วยเหลือสายด่วน 1669 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงฟรี หลังรับแจ้งจะส่งทีมกู้ชีพออกไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บภายใน 10 นาที และนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
สำหรับประชาชนที่เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตอันตรายถึงแก่ชีวิต ตามเกณฑ์ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ภายใต้นโยบาย เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิ ขอให้มั่นใจไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย โดยสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติจะเป็นผู้ประเมินเพื่อวินิจฉัยคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ประสานระหว่างโรงพยาบาลรัฐ เอกชน ให้การรับผู้ป่วย การส่งตัวผู้ป่วย การจัดหาเตียงหลัง 72 ชั่วโมงเป็นไปอย่างราบรื่น หากสงสัยโทรถามสายด่วน 1669 ตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน
3.ควรหยุดพักระหว่างทางทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือทุก 150 กิโลเมตร แม้ว่าจะยังไม่รู้สึกเหนื่อย ที่สำคัญเมื่อรู้สึกง่วง อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า อย่าฝืนขับ ให้เปลี่ยนคนขับ หรือแวะจอดรถในที่ปลอดภัยและงีบหลับประมาณ 15 นาที
4.กรณีมีฝนตกหนัก หรือเส้นทางที่หมอกลงจัด ทำให้ทัศนะวิสัยในการมองเห็นลดลง ควรเปิดโคมไฟใหญ่หรือไฟต่ำหรือไฟตัดหมอก เพื่อให้มองเห็นสภาพเส้นทางได้ชัดเจนขึ้น ขับช้าๆ ไม่แซง หรือเปลี่ยนช่องการจราจรอย่างกะทันหัน
นพ.ปิยะสกล กล่าวต่อว่า ได้กำชับให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ 855 แห่ง เตรียมพร้อมใน 2 ส่วน คือ ความพร้อมในโรงพยาบาลโดยเตรียมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ยา เวชภัณฑ์ ห้องผ่าตัด คลังเลือด เครื่องช่วยหายใจ สำรองเตียงว่าง และส่วนที่ 2 คือความพร้อมของทีมที่ออกไปดูแลผู้ป่วย ณ จุดเกิดเหตุ โดยจัดทีมแพทย์ฉุกเฉินทุกระดับจำนวน 15,223 ทีม พร้อมรถพยาบาลที่มีเครื่องมือช่วยชีวิต เพื่อให้การดูแลประชาชนที่เดินทางกลับจากเทศกาลเข้าพรรษาให้ดีที่สุด ประชาชนพบเห็นการเกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บ/เจ็บป่วยฉุกเฉินโทรขอความช่วยเหลือสายด่วน 1669 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงฟรี หลังรับแจ้งจะส่งทีมกู้ชีพออกไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บภายใน 10 นาที และนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
สำหรับประชาชนที่เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตอันตรายถึงแก่ชีวิต ตามเกณฑ์ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ภายใต้นโยบาย เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิ ขอให้มั่นใจไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย โดยสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติจะเป็นผู้ประเมินเพื่อวินิจฉัยคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ประสานระหว่างโรงพยาบาลรัฐ เอกชน ให้การรับผู้ป่วย การส่งตัวผู้ป่วย การจัดหาเตียงหลัง 72 ชั่วโมงเป็นไปอย่างราบรื่น หากสงสัยโทรถามสายด่วน 1669 ตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน