นายกรัฐมนตรีมานูเอล วาลส์ แห่งฝรั่งเศสถูกโห่ที่เมืองนีซในวันจันทร์(18ก.ค.) ทั้งก่อนและหลังการยืนสงบนิ่งไว้อาลัยแก่เหยื่อเหตุโจมตีนองเลือดวันชาติ ท่ามกลางความไม่พอใจของประชาชนต่อพวกนักการเมืองที่เอาแต่กล่าวโทษกันไปมา
ฝรั่งเศสอยู่ในความเงียบสงบ เพื่อรำลึกถึงเหยื่อของเหตุรถบรรทุกโจมตีที่เมืองนีซเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว แต่พิธีไว้อาลัยถูกบดบังโดยเหล่านักการเมืองที่ต่างสาดโคลนกันไปมาเกี่ยวกับเหตุสังหารหมู่ดังกล่าว
คลื่นประชาชนเดินขบวนไปทั่วเมืองนีซ และยืนสงบนิ่งไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต ไม่กี่วันหลังจากมือโจมตีชาวตูนิเซียขับรถบรรทุกพุ่ชนฝูงชนในเมืองเดียวกันนี้ ในวันชาติฝรั่งเศสเมื่อวันพฤหัสบดี(14ก.ค.) คร่าชีวิตผู้คน 84 ศพและบาดเจ็บราว 300 คน นอกจากนี้แล้วยังการชุุมนุมแบบเดียวกันยังมีขึ้นทั่วประเทศ โดยการยืนสงบนิ่งมีขึ้นพร้อมๆกับเสียงระฆังดังก้องของโบสถ์ต่างๆ
นายกรัฐมนตรีวาลส์ ถูกโห่และเผชิญเสียงตะโกนขับไล่ให้ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งตอนดินทางมาถึงและเดินทางกลับจากถนนเลียบทะเลในเมืองนีซ สัญญาณแห่งความเคียดแค้นและขมขื่นที่เกาะกุมฝรั่งเศส หลังถูกโจมตีเลวร้ายเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 18 เดือน
อารมณ์ฉุนเฉียวในฝรั่งเศสพุ่งสูงขึ้น นับตั้งแต่ชายตูนิเซียวัย 31 ปี ขับรถบรรทุก 19 ตันพุ่งชนฝูงชนที่กำลังเดินทางออกจากงานแสดงพลุไฟ ส่งผลให้ศพกระจัดกระจายอยู่เต็มท้องถนนที่รถแล่นผ่าน
พวกฝ่ายค้านกล่าวหารัฐบาลโซเชียลิสต์ไม่ดำเนินการอย่างเพียงพอในการปกป้องเหตุโจมตี แต่รัฐบาลพยายามปัดเป่าเสียงวิจารณ์ โดยระบุว่านายโมฮัมเหม็ด ลาฮูไอเยจ์ - บูห์แลล ไม่เคยมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายญิฮัดและอ้างว่าเขาเพิ่งเป็นพวกหัวรุนแรงเมื่อไม่นานมานี้
นิโกลาส์ ซาร์โกซี อดีตนายกรัฐมนตรีและแกนนำฝ่ายค้านหลักระบุเมื่อวันอาทิตย์(17ก.ค.) ว่าทุกอย่างที่ควรทำตั้งแต่ช่วง 18 เดือนก่อน แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการ "เราอยู่ในภาวะสงคราม สงครามอย่างเปิดเผย ดังนั้นผมจะใช้คำที่แข็งกร้าวว่า ไม่เราก็มัน" เขากล่าว
ในขณะที่เหตุโจมตีคราวก่อนๆ มักพบเห็นการแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในชาติ แต่กับเหตุสังหารหมู่ในนีซกลับต่างออกไป ด้วย ซาร์โกซี เป็นหนึ่งในนักการเมืองฝ่ายค้านหลายคนที่ออกมากล่าวหารัฐบาลไม่ดำเนินการอย่างเพียงพอในการปกป้องชาวฝรั่งเศส แต่นายกาเซอเนิฟ ออกมาตำหนิการโต้เถียงอันเจ็บปวดว่าเป็นสิ่งที่น่าละอาย "ชัดเจนว่านักการเมืองบางคน ไม่เคารพช่วงเวลาแห่งการไว้อาลัย"
ฝรั่งเศสอยู่ในความเงียบสงบ เพื่อรำลึกถึงเหยื่อของเหตุรถบรรทุกโจมตีที่เมืองนีซเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว แต่พิธีไว้อาลัยถูกบดบังโดยเหล่านักการเมืองที่ต่างสาดโคลนกันไปมาเกี่ยวกับเหตุสังหารหมู่ดังกล่าว
คลื่นประชาชนเดินขบวนไปทั่วเมืองนีซ และยืนสงบนิ่งไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต ไม่กี่วันหลังจากมือโจมตีชาวตูนิเซียขับรถบรรทุกพุ่ชนฝูงชนในเมืองเดียวกันนี้ ในวันชาติฝรั่งเศสเมื่อวันพฤหัสบดี(14ก.ค.) คร่าชีวิตผู้คน 84 ศพและบาดเจ็บราว 300 คน นอกจากนี้แล้วยังการชุุมนุมแบบเดียวกันยังมีขึ้นทั่วประเทศ โดยการยืนสงบนิ่งมีขึ้นพร้อมๆกับเสียงระฆังดังก้องของโบสถ์ต่างๆ
นายกรัฐมนตรีวาลส์ ถูกโห่และเผชิญเสียงตะโกนขับไล่ให้ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งตอนดินทางมาถึงและเดินทางกลับจากถนนเลียบทะเลในเมืองนีซ สัญญาณแห่งความเคียดแค้นและขมขื่นที่เกาะกุมฝรั่งเศส หลังถูกโจมตีเลวร้ายเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 18 เดือน
อารมณ์ฉุนเฉียวในฝรั่งเศสพุ่งสูงขึ้น นับตั้งแต่ชายตูนิเซียวัย 31 ปี ขับรถบรรทุก 19 ตันพุ่งชนฝูงชนที่กำลังเดินทางออกจากงานแสดงพลุไฟ ส่งผลให้ศพกระจัดกระจายอยู่เต็มท้องถนนที่รถแล่นผ่าน
พวกฝ่ายค้านกล่าวหารัฐบาลโซเชียลิสต์ไม่ดำเนินการอย่างเพียงพอในการปกป้องเหตุโจมตี แต่รัฐบาลพยายามปัดเป่าเสียงวิจารณ์ โดยระบุว่านายโมฮัมเหม็ด ลาฮูไอเยจ์ - บูห์แลล ไม่เคยมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายญิฮัดและอ้างว่าเขาเพิ่งเป็นพวกหัวรุนแรงเมื่อไม่นานมานี้
นิโกลาส์ ซาร์โกซี อดีตนายกรัฐมนตรีและแกนนำฝ่ายค้านหลักระบุเมื่อวันอาทิตย์(17ก.ค.) ว่าทุกอย่างที่ควรทำตั้งแต่ช่วง 18 เดือนก่อน แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการ "เราอยู่ในภาวะสงคราม สงครามอย่างเปิดเผย ดังนั้นผมจะใช้คำที่แข็งกร้าวว่า ไม่เราก็มัน" เขากล่าว
ในขณะที่เหตุโจมตีคราวก่อนๆ มักพบเห็นการแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในชาติ แต่กับเหตุสังหารหมู่ในนีซกลับต่างออกไป ด้วย ซาร์โกซี เป็นหนึ่งในนักการเมืองฝ่ายค้านหลายคนที่ออกมากล่าวหารัฐบาลไม่ดำเนินการอย่างเพียงพอในการปกป้องชาวฝรั่งเศส แต่นายกาเซอเนิฟ ออกมาตำหนิการโต้เถียงอันเจ็บปวดว่าเป็นสิ่งที่น่าละอาย "ชัดเจนว่านักการเมืองบางคน ไม่เคารพช่วงเวลาแห่งการไว้อาลัย"
