พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างการเข้าร่วมประชุมเอเชีย-ยุโรป ที่กรุงอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย กล่าวถึงการรับมือการก่อการร้ายว่า วันนี้ใช้มาตรการทางทหารอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องใช้ระบบไอทีเข้ามาช่วยในส่วนงานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินการจัดซื้อเครื่องมือในการตรวจใบหน้า และปริ้นลายมือพร้อมกัน การจัดซื้อได้กำชับให้การดำเนินการจะต้องคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ และสามารถอัพเกรดได้ ต้องเชื่อมต่อทุกสนามบิน และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของ ตม.อีกตัวหนึ่ง ถ้ามีผู้ต้องสงสัยเดินทางเข้าประเทศ จะรู้ได้ทันที และสามารถจับกุมได้ทันที
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เราต้องพัฒนาระบบ ตม. ศุลกากร การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ทหาร ตำรวจ ทั้งหมดต้องบูรณาการร่วมกัน ที่ผ่านมาต่างคนต่างทำงาน สำหรับการจัดซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นนั้นต้องสั่งซื้อ ไม่เช่นนั้นจะแก้ปัญหาไม่ได้ ส่วนถ้าการจัดซื้อมีความไม่โปร่งใส ก็ต้องตรวจสอบ เรื่องเหล่านี้ต้องแยกออกจากกัน ถ้ามีการทุจริต ต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า การแก้ไขปัญหาการก่อการร้าย เราต้องแสวงหาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งได้คุยกับทางมาเลเซีย ต้องแก้ปัญหาแบบพันธมิตร แก้คนเดียวไม่ได้ วันนี้ประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และคนของเราไม่ได้เข้าไปร่วมในขบวนการ เพราะฉะนั้นเราอย่าไปดึงศึกเข้าบ้าน ทุกฝ่ายต้องช่วยกันระมัดระวัง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เราต้องพัฒนาระบบ ตม. ศุลกากร การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ทหาร ตำรวจ ทั้งหมดต้องบูรณาการร่วมกัน ที่ผ่านมาต่างคนต่างทำงาน สำหรับการจัดซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นนั้นต้องสั่งซื้อ ไม่เช่นนั้นจะแก้ปัญหาไม่ได้ ส่วนถ้าการจัดซื้อมีความไม่โปร่งใส ก็ต้องตรวจสอบ เรื่องเหล่านี้ต้องแยกออกจากกัน ถ้ามีการทุจริต ต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า การแก้ไขปัญหาการก่อการร้าย เราต้องแสวงหาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งได้คุยกับทางมาเลเซีย ต้องแก้ปัญหาแบบพันธมิตร แก้คนเดียวไม่ได้ วันนี้ประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และคนของเราไม่ได้เข้าไปร่วมในขบวนการ เพราะฉะนั้นเราอย่าไปดึงศึกเข้าบ้าน ทุกฝ่ายต้องช่วยกันระมัดระวัง