เหตุการณ์จลาจลในเรือนจำกลางปัตตานีที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ 15 ก.ค.จนถึงช่วงกลางดึก พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ วังสุภา ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ปัตตานี ให้ข้อมูลกับ จส.100 ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่จากเรือนจำใกล้เคียง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าไปได้มีนักโทษชั้นดีถูกทำร้ายเสียชีวิต 2 คน สำหรับผู้ก่อเหตุเรือนจำจะแยกออกอีกโซน โดยมีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจลเข้าไป พร้อมประสานงานฝ่ายปกครองและทหาร
เจ้าหน้าที่กู้ภัยสันติ จ.ปัตตานี ระบุว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ไว้ทั้งหมดแล้วเมื่อประมาณ 23.30 น. จากนั้นเริ่มมีการทยอย ลำเลียงผู้บาดเจ็บออกมาจากพื้นที่ในเรือนจำ เพื่อนำส่งโรงพยาบาลปัตตานี ขณะที่ด้านในมีการเข้าไปเคลียร์และตรวจสอบอีกครั้ง
นายปฏิคม วงษ์สวุรรณ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า จะเดินทางลงพื้นที่ในวันนี้ ส่วนสาเหตุเกิดจากนักโทษไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่มีการตรวจเข้มเรื่องยาเสพติด และจัดระเบียบ การเดินทางลงพื้นที่ในวันนี้จะสรุปข้อเท็จจริงอีกครั้ง เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 2 คน ส่วนผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่บาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บศรีษะแตก สำหรับคนที่เป็นตัวการมี 2 คน ยุยงนักโทษเข้าร่วมขบวนการอีกประมาณ 100-200 คน แต่ต้องตรวจสอบอีกครั้ง ผู้ต้องขังมีประมาณ 1,800 คน เจ้าหน้าที่ผู้คุมมีจำนวน 50 คน นักโทษส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา ปกติเน้นการพัฒนาจิตใจเป็นหลัก แต่มีบางส่วนที่เจ้าหน้าที่ต้องทำความเข้าใจ ส่วนเรื่องที่เข้มงวดเพราะเรือนจำต้องมีระเบียบ ต้องหาวิธีทำความเข้าใจ
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการสั่งการให้ผู้ว่าฯ ควบคุมสถานการณ์ และใช้การเจรจากับผู้ก่อเหตุ โดยมีประธานคณะกรรมการอิสลามกลาง เข้าเจรจากับผู้ก่อเหตุแต่ไม่เป็นผล ซึ่งมีประมาณ 100 คน ผู้ก่อเหตุพยายามยื่นข้อเรียกร้องหลายข้อ ทางเจ้าหน้าที่ได้ย้ำให้ใช้ความระมัดระวัง ละมุนละม่อมในการควบคุมสถานการณ์
เจ้าหน้าที่กู้ภัยสันติ จ.ปัตตานี ระบุว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ไว้ทั้งหมดแล้วเมื่อประมาณ 23.30 น. จากนั้นเริ่มมีการทยอย ลำเลียงผู้บาดเจ็บออกมาจากพื้นที่ในเรือนจำ เพื่อนำส่งโรงพยาบาลปัตตานี ขณะที่ด้านในมีการเข้าไปเคลียร์และตรวจสอบอีกครั้ง
นายปฏิคม วงษ์สวุรรณ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า จะเดินทางลงพื้นที่ในวันนี้ ส่วนสาเหตุเกิดจากนักโทษไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่มีการตรวจเข้มเรื่องยาเสพติด และจัดระเบียบ การเดินทางลงพื้นที่ในวันนี้จะสรุปข้อเท็จจริงอีกครั้ง เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 2 คน ส่วนผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่บาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บศรีษะแตก สำหรับคนที่เป็นตัวการมี 2 คน ยุยงนักโทษเข้าร่วมขบวนการอีกประมาณ 100-200 คน แต่ต้องตรวจสอบอีกครั้ง ผู้ต้องขังมีประมาณ 1,800 คน เจ้าหน้าที่ผู้คุมมีจำนวน 50 คน นักโทษส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา ปกติเน้นการพัฒนาจิตใจเป็นหลัก แต่มีบางส่วนที่เจ้าหน้าที่ต้องทำความเข้าใจ ส่วนเรื่องที่เข้มงวดเพราะเรือนจำต้องมีระเบียบ ต้องหาวิธีทำความเข้าใจ
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการสั่งการให้ผู้ว่าฯ ควบคุมสถานการณ์ และใช้การเจรจากับผู้ก่อเหตุ โดยมีประธานคณะกรรมการอิสลามกลาง เข้าเจรจากับผู้ก่อเหตุแต่ไม่เป็นผล ซึ่งมีประมาณ 100 คน ผู้ก่อเหตุพยายามยื่นข้อเรียกร้องหลายข้อ ทางเจ้าหน้าที่ได้ย้ำให้ใช้ความระมัดระวัง ละมุนละม่อมในการควบคุมสถานการณ์
