เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ลงพื้นที่ตรวจรถยนต์สาธารณบริเวณอาคารผู้โดยสารต่างประเทศขาออก ภายนอกประเทศ ชั้น 3 ประตูหมายเลข 7 ท่าอากาศดอนเมือง โดยนอกจากจะมีเจ้าหน้าที่จากกรมการขนส่งทางบกแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่จากท่าอากาศยานดอนเมือง ตำรวจท่องเที่ยว และสถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง ร่วมลงตรวจและคอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารด้วย
นายประชุม ผ่องบุรุษ พนักงานขนส่งชำนาญงาน กรมการขนส่งทางบก ในฐานะหัวหน้าชุดตรวจการที่ 22 เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ตรวจรถยนต์ในวันนี้เป็นการตรวจรถแท็กซี่ด้านนอก ที่นำผู้โดยสารเข้ามาส่งภายในสนามบิน เนื่องจากในช่วงเวลาเร่งด่วนที่ผู้โดยสารต้องเดินทางมาขึ้นเครื่องผู้โดยสารจำเป็นต้องเรียกแท็กซี่จากด้านนอก ซึ่งเป็นแท็กซี่ที่ไม่ได้มีการลงทะเบียนไว้กับท่าอากาศยาน ทำให้อาจเป็นแท็กซี่ที่ผิดกฎหมาย เช่น รถแท็กซี่ที่หมดอายุการใช้งาน รถแท็กซี่ที่แต่งกายไม่ถูกต้องตามระเบียบ โดยในวันนี้กรมการขนส่งทางบกได้เน้นตรวจรถแท็กซี่ที่หมดอายุการใช้งาน เมื่อพบก็จะมีการถอดป้ายทะเบียนทันที และเน้นแท็กซี่ที่ไม่ตรวจรอบมิเตอร์ตามกำหนด
ด้านนายวุฒิพงษ์ ภาพน้ำ รองผู้อำนวยการศูนย์ขนส่งท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวว่า ปัญหาที่พบมากของแท็กซี่ที่นำผู้โดยสารมาส่งที่ท่าอากาศยาน คือ แท็กซี่ที่ไม่มีการต่ออายุ ส่วนปัญหาที่มีผู้โดยสารร้องเรียนกับทางท่าอากาศยานอยู่บ่อยครั้ง จะเป็นเรื่องแท็กซี่ไม่กดมาตรมิเตอร์ และพูดจาไม่สุภาพ รวมทั้งแท็กซี่ที่เลือกรับผู้โดยสาร โดยจะปฏิเสธผู้โดยสารชาวไทย และเลือกรับแต่ชาวต่างชาติ ซึ่งจากการลงตรวจทุกวันในเวลาเช้าเย็น จะพบแท็กซี่ที่กระทำผิด เป็นจำนวนมากโดยส่วนใหญ่พบในเวลากลางคืน
จากการลงพื้นที่ตรวจในวันนี้ ตั้งแต่เวลา 07.30 - 09.00 น. พบรถแท็กซี่กระทำผิดทั้งสิ้น 10 ราย โดยมีการออกใบสั่งผู้ตรวจการ 6 ราย ประกอบด้วย นำรถออกมาวิ่งนอกเส้นทาง โดยไม่ได้รับอนุญาต 1 ราย นำรถแท็กซี่ป้ายแดงมาขับ 2 ราย ไม่พ่นเครื่องหมายประจำตัวรถด้านข้าง 2 ราย อุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้อง เนื่องจากกระจกหน้ารถแตก และไม่ติดป้ายทะเบียนด้านหลังรถ โดยใช้แผ่นฟิวเจอร์บอร์ดและปากกาเมจิกเขียนเลขทะเบียนรถแทน 1 ราย และมีการเปรียบเทียบปรับ 3 ราย ประกอบด้วย ไม่แสดงบัตรประจำตัวพนักงานขับรถ 1 ราย ปรับ 500 บาท ไม่ติดเครื่องหมายการเสียภาษี 1 ราย ปรับ 500 บาท และไม่ตรวจรอบมิเตอร์ตามกำหนด 1 ราย ปรับ 1,000 บาท นอกจากนี้ ยังพบรถบัส ที่นำผู้โดยสารมาส่งกระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก พ.ศ.2522 1 ราย คือ เบาะนั่งปิดบังประตูฉุกเฉิน เปรียบเทียบปรับ 2,000 บาท
นายประชุม ผ่องบุรุษ พนักงานขนส่งชำนาญงาน กรมการขนส่งทางบก ในฐานะหัวหน้าชุดตรวจการที่ 22 เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ตรวจรถยนต์ในวันนี้เป็นการตรวจรถแท็กซี่ด้านนอก ที่นำผู้โดยสารเข้ามาส่งภายในสนามบิน เนื่องจากในช่วงเวลาเร่งด่วนที่ผู้โดยสารต้องเดินทางมาขึ้นเครื่องผู้โดยสารจำเป็นต้องเรียกแท็กซี่จากด้านนอก ซึ่งเป็นแท็กซี่ที่ไม่ได้มีการลงทะเบียนไว้กับท่าอากาศยาน ทำให้อาจเป็นแท็กซี่ที่ผิดกฎหมาย เช่น รถแท็กซี่ที่หมดอายุการใช้งาน รถแท็กซี่ที่แต่งกายไม่ถูกต้องตามระเบียบ โดยในวันนี้กรมการขนส่งทางบกได้เน้นตรวจรถแท็กซี่ที่หมดอายุการใช้งาน เมื่อพบก็จะมีการถอดป้ายทะเบียนทันที และเน้นแท็กซี่ที่ไม่ตรวจรอบมิเตอร์ตามกำหนด
ด้านนายวุฒิพงษ์ ภาพน้ำ รองผู้อำนวยการศูนย์ขนส่งท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวว่า ปัญหาที่พบมากของแท็กซี่ที่นำผู้โดยสารมาส่งที่ท่าอากาศยาน คือ แท็กซี่ที่ไม่มีการต่ออายุ ส่วนปัญหาที่มีผู้โดยสารร้องเรียนกับทางท่าอากาศยานอยู่บ่อยครั้ง จะเป็นเรื่องแท็กซี่ไม่กดมาตรมิเตอร์ และพูดจาไม่สุภาพ รวมทั้งแท็กซี่ที่เลือกรับผู้โดยสาร โดยจะปฏิเสธผู้โดยสารชาวไทย และเลือกรับแต่ชาวต่างชาติ ซึ่งจากการลงตรวจทุกวันในเวลาเช้าเย็น จะพบแท็กซี่ที่กระทำผิด เป็นจำนวนมากโดยส่วนใหญ่พบในเวลากลางคืน
จากการลงพื้นที่ตรวจในวันนี้ ตั้งแต่เวลา 07.30 - 09.00 น. พบรถแท็กซี่กระทำผิดทั้งสิ้น 10 ราย โดยมีการออกใบสั่งผู้ตรวจการ 6 ราย ประกอบด้วย นำรถออกมาวิ่งนอกเส้นทาง โดยไม่ได้รับอนุญาต 1 ราย นำรถแท็กซี่ป้ายแดงมาขับ 2 ราย ไม่พ่นเครื่องหมายประจำตัวรถด้านข้าง 2 ราย อุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้อง เนื่องจากกระจกหน้ารถแตก และไม่ติดป้ายทะเบียนด้านหลังรถ โดยใช้แผ่นฟิวเจอร์บอร์ดและปากกาเมจิกเขียนเลขทะเบียนรถแทน 1 ราย และมีการเปรียบเทียบปรับ 3 ราย ประกอบด้วย ไม่แสดงบัตรประจำตัวพนักงานขับรถ 1 ราย ปรับ 500 บาท ไม่ติดเครื่องหมายการเสียภาษี 1 ราย ปรับ 500 บาท และไม่ตรวจรอบมิเตอร์ตามกำหนด 1 ราย ปรับ 1,000 บาท นอกจากนี้ ยังพบรถบัส ที่นำผู้โดยสารมาส่งกระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก พ.ศ.2522 1 ราย คือ เบาะนั่งปิดบังประตูฉุกเฉิน เปรียบเทียบปรับ 2,000 บาท