พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ข้อเรียกร้องของนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีตรวจสอบคดีรถหรูของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการตรวจสอบอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในการเร่งรัด หรือทำตามข้อเสนอของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ที่ให้มีการตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ ขณะเดียวกันก็ให้ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หารือกับมหาเถระสมาคม หากพิจารณาแล้วว่ามีความผิดทางคดี มส.จึงจะเข้ามาดำเนินการเกี่ยวกับพระวินัย
ส่วนกรณีพระเทพญาณมหามุณี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่มีกระแสข่าวว่าได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ส่วนตัวเชื่อว่าพระธัมมชโยยังอยู่ในวัด เพราะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะจะเกิดปัญหา
ส่วนการกดดันให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการเสนอชื่อสมเด็จช่วงเป็นพระสังฆราชภายใน 7 วัน ไม่เช่นนั้นจะออกมาเคลื่อนไหว ระบุว่า หากออกมาเคลื่อนไหวก็ต้องจับกุม เพราะมีกฎหมายควบคุมอยู่ พร้อมระบุว่าตนควรเป็นคนยื่นคำขาด มากกว่าให้ใครมายื่นคำขาดกับตน และย้ำด้วยว่าจะไม่ปล่อยปละละเลยไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มใดก็ตาม
ส่วนกรณีพระเทพญาณมหามุณี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่มีกระแสข่าวว่าได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ส่วนตัวเชื่อว่าพระธัมมชโยยังอยู่ในวัด เพราะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะจะเกิดปัญหา
ส่วนการกดดันให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการเสนอชื่อสมเด็จช่วงเป็นพระสังฆราชภายใน 7 วัน ไม่เช่นนั้นจะออกมาเคลื่อนไหว ระบุว่า หากออกมาเคลื่อนไหวก็ต้องจับกุม เพราะมีกฎหมายควบคุมอยู่ พร้อมระบุว่าตนควรเป็นคนยื่นคำขาด มากกว่าให้ใครมายื่นคำขาดกับตน และย้ำด้วยว่าจะไม่ปล่อยปละละเลยไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มใดก็ตาม