นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีกาตัดสินเกี่ยวกับข้อกฎหมายภาษีไม่ตรงกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอและกรมสรรพากร ไม่ตรงกัน ส่งผลให้บริษัทเอกชนที่ได้รับสิทธิส่งเสริมการลงทุนเสียภาษีผิดพลาดและต้องเสียค่าปรับ โดยจากการตรวจสอบพบว่ามี 40 บริษัท ที่จะต้องดำเนินการยื่นภาษีใหม่ โดยจะให้เวลาถึงวันที่ 1 ส.ค.นี้ โดยจะยกเว้นเบี้ยค่าปรับและเงินภาษีที่ต้องจ่ายเพิ่ม
ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการยื่นเสียภาษีและได้ลดหย่อนตามสิทธิของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) กับกรมสรรพากร 800 แห่ง มีผู้ประกอบการที่ยังเสียภาษีไม่ถูกต้องเพียง 40 แห่ง เป็นภาษีประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท ถ้ารวมกับค่าปรับด้วยจะอยู่เกือบ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งทางกรมสรรพากรได้ส่งหนังสือไปถึงทุกแห่งให้ทำการปรับปรุงการเสียภาษีให้ถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการทั้ง 40 แห่ง ได้เข้าพบหารือกับกรมสรรพากรแล้ว ส่วนใหญ่เข้าใจรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นดี มีบางแห่งที่ยังมีปัญหาเพราะฝ่ายกฎหมายของผู้ประกอบการมีความเห็นต่างและคาดเคลื่อนจากความเห็น ของกรมสรรพากร ซึ่งคาดว่าจะให้ข้อยุติได้ในไม่ช้า โดยกรมสรรพากรได้หารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ซึ่งจะทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการอีกทางหนึ่ง
นายประสงค์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2559 ที่ผ่านมา นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้ลงนามประกาศเรื่องขยายกำหนดเวลาการยื่นรายการชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ได้รับการส่งเสริมจาก บีโอไอไม่ถูกต้องให้มายื่นภาษีใหม่ได้ในช่วงวันที่ 15 มิ.ย.-1 ส.ค. 2559 โดยไม่ต้องเสียค่าปรับหรือเงินเพิ่ม สำหรับกรณีที่ผู้ประกอบการได้เสียค่าปรับ หรือเงินเพิ่มไปแล้ว ก็ได้มีการขยายกำหนดเวลาการยื่นคำร้องขอคืนเบี้ยปรับเงินเพิ่มไปเป็นภายในวันที่ 1 ส.ค. 2559
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ยื่นอุทธรณ์การประเมินของเจ้าหนักงานประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์หรือศาล ผู้ประกอบการต้องถอนอุทธรณ์หรือฟ้องต่อศาลเสียก่อนถึงจะดำเนินการยื่นภาษีใหม่ได้
ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการยื่นเสียภาษีและได้ลดหย่อนตามสิทธิของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) กับกรมสรรพากร 800 แห่ง มีผู้ประกอบการที่ยังเสียภาษีไม่ถูกต้องเพียง 40 แห่ง เป็นภาษีประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท ถ้ารวมกับค่าปรับด้วยจะอยู่เกือบ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งทางกรมสรรพากรได้ส่งหนังสือไปถึงทุกแห่งให้ทำการปรับปรุงการเสียภาษีให้ถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการทั้ง 40 แห่ง ได้เข้าพบหารือกับกรมสรรพากรแล้ว ส่วนใหญ่เข้าใจรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นดี มีบางแห่งที่ยังมีปัญหาเพราะฝ่ายกฎหมายของผู้ประกอบการมีความเห็นต่างและคาดเคลื่อนจากความเห็น ของกรมสรรพากร ซึ่งคาดว่าจะให้ข้อยุติได้ในไม่ช้า โดยกรมสรรพากรได้หารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ซึ่งจะทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการอีกทางหนึ่ง
นายประสงค์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2559 ที่ผ่านมา นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้ลงนามประกาศเรื่องขยายกำหนดเวลาการยื่นรายการชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ได้รับการส่งเสริมจาก บีโอไอไม่ถูกต้องให้มายื่นภาษีใหม่ได้ในช่วงวันที่ 15 มิ.ย.-1 ส.ค. 2559 โดยไม่ต้องเสียค่าปรับหรือเงินเพิ่ม สำหรับกรณีที่ผู้ประกอบการได้เสียค่าปรับ หรือเงินเพิ่มไปแล้ว ก็ได้มีการขยายกำหนดเวลาการยื่นคำร้องขอคืนเบี้ยปรับเงินเพิ่มไปเป็นภายในวันที่ 1 ส.ค. 2559
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ยื่นอุทธรณ์การประเมินของเจ้าหนักงานประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์หรือศาล ผู้ประกอบการต้องถอนอุทธรณ์หรือฟ้องต่อศาลเสียก่อนถึงจะดำเนินการยื่นภาษีใหม่ได้