นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า หลังจากเกิดกรณีวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน จ.กาญจนบุรี มีการครอบครองเสือโคร่ง และสัตว์ป่าคุ้มครองหลายชนิดนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ตนได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ทุกแห่งไปสำรวจตามวัดต่างๆ ในพื้นที่ว่า วัดมีการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองบ้างหรือไม่และได้มีการแจ้งการครอบครองต่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชหรือไม่ ซึ่งได้ให้ พศจ.แจ้งข้อมูลมายัง พศ.ภายในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ หากผลสำรวจพบว่ามีวัดครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้แจ้งการครอบครองต่อกรมอุทยานแห่งชาติฯ จะให้ พศจ.ให้คำแนะนำแก่วัดนั้นๆ ให้ไปแจ้งการครอบครองตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม พศ.จะปรึกษาหารือกับกรมอุทยานแห่งชาติฯว่าจะสามารถผ่อนผันให้แก่วัดที่ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองได้หรือไม่ เพราะเชื่อว่าหากมีวัดครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองก็เป็นไปว่า วัดอาจจะไม่มีเจตนาในการครอบครอง เช่น วัดที่มีพื้นที่ติดกับป่า บางครั้งสัตว์บาดเจ็บพลัดหลงเข้ามา และวัดช่วยดูแล หรือญาติโยมนำมาฝากเลี้ยง แต่วัดไม่รู้ข้อกฎหมาย จึงไม่ได้แจ้งครอบครอง ทั้งนี้ต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก หากเกิดกรณีวัดทำผิดกฎหมายจริงๆ ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม พศ.จะปรึกษาหารือกับกรมอุทยานแห่งชาติฯว่าจะสามารถผ่อนผันให้แก่วัดที่ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองได้หรือไม่ เพราะเชื่อว่าหากมีวัดครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองก็เป็นไปว่า วัดอาจจะไม่มีเจตนาในการครอบครอง เช่น วัดที่มีพื้นที่ติดกับป่า บางครั้งสัตว์บาดเจ็บพลัดหลงเข้ามา และวัดช่วยดูแล หรือญาติโยมนำมาฝากเลี้ยง แต่วัดไม่รู้ข้อกฎหมาย จึงไม่ได้แจ้งครอบครอง ทั้งนี้ต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก หากเกิดกรณีวัดทำผิดกฎหมายจริงๆ ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย