พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวในระหว่างร่วมเปิดการประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีที่กระทรวงพลังงานเป็นเจ้าภาพวันนี้ (29 มิ.ย.) ว่า การประชุมเช่นนี้เป็นการหมุนเวียนประชุมไปแต่ละกระทรวง เพื่อจะได้ประสานความร่วมมือในการแก้ปัญหาติดขัดระหว่างกัน เพื่อให้งานของรัฐบาลเดินหน้าร่วมกัน โดยในส่วนของกระทรวงพลังงานนั้น ที่ผ่านมามีการลงทุนของภาคเอกชนที่ ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงฯ แต่ไม่สามารถเดินหน้าโครงการได้ เพราะติดปัญหา เช่นที่ดิน ส.ป.ก.ในพื้นที่สัมปทานปิโตรเลียม ปัญหาผังเมืองสำหรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าต่างๆ เป็นต้น จึงขอความร่วมมือกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อประสานแก้ปัญหาร่วมกัน ซึ่งเงื่อนไขสำคัญคือไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม
พล.อ.อนันตพร กล่าวว่าอีกว่า โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ติดปัญหาผังเมืองที่ประกาศขึ้นมาภายหลังได้รับการอนุมัติไปแล้ว ซึ่ง คำสั่ง คสช.มาตรา 44 มีผลละเว้นให้ 1 ปี ดังนั้นก็ต้องหาทางร่วมมือกันทำอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้ในอนาคต ส่วน การสำรวจปิโตรเลียม ได้สัมปทานไปแล้ว แต่ติดปัญหา ส.ป.ก.เข้าสำรวจไม่ได้ ก็ควรจะร่วมมือกันว่าทำอย่างไร
พล.อ.อนันตพร กล่าวด้วยว่า ในเรื่องของโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ได้รับทราบว่าการประชุมคณะกรรมไตรภาคีมีความคืบหน้าและคงจะสรุปในเร็วๆนี้ โดยโรงไฟฟ้าในภาคใต้แห่งใหม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ที่จะเห็นได้ว่า มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และการใช้ไฟฟ้าแต่ละจังหวัดก็เพิ่มขึ้นด้วย
พล.อ.อนันตพร กล่าวว่าอีกว่า โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ติดปัญหาผังเมืองที่ประกาศขึ้นมาภายหลังได้รับการอนุมัติไปแล้ว ซึ่ง คำสั่ง คสช.มาตรา 44 มีผลละเว้นให้ 1 ปี ดังนั้นก็ต้องหาทางร่วมมือกันทำอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้ในอนาคต ส่วน การสำรวจปิโตรเลียม ได้สัมปทานไปแล้ว แต่ติดปัญหา ส.ป.ก.เข้าสำรวจไม่ได้ ก็ควรจะร่วมมือกันว่าทำอย่างไร
พล.อ.อนันตพร กล่าวด้วยว่า ในเรื่องของโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ได้รับทราบว่าการประชุมคณะกรรมไตรภาคีมีความคืบหน้าและคงจะสรุปในเร็วๆนี้ โดยโรงไฟฟ้าในภาคใต้แห่งใหม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ที่จะเห็นได้ว่า มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และการใช้ไฟฟ้าแต่ละจังหวัดก็เพิ่มขึ้นด้วย