พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการผ่านวิทยุราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด่วนที่สุด เลขที่ 0001 (ศปก..ตร.) /35 ลงวันที่ 24 มิถุนายน ถึงผู้บัญชาการ – ผู้บังคับการทุกหน่วย ใจความอ้างถึงคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 33/2559 ลงวันที่ 24 มิถุนายน เรื่องให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการในหน่วยงานอื่น ในข้อ 3 ที่ว่าให้ผู้บังคับบัญชาในทุกหน่วยงานของรัฐ สอดส่องพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐในสังกัดในด้านประสิทธิภาพ สมรรถนะในการปฏิบัติราชการ การอํานวยความสะดวกแก่ประชาชนและการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ ในกรณีเห็นว่าควรปรับปรุงแก้ไข ให้ตักเตือน แนะนํา ย้ายออกนอกพื้นที่สับเปลี่ยนตําแหน่งหน้าที่การงาน หรือหากมีมูลความผิด ให้ดําเนินการทางวินัย โดยคํานึงถึงการให้ความเป็นธรรมแก่เจ้าหน้าที่ผู้นั้น การดูแลรักษาวินัยและกฎหมายตามอํานาจหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาและการรักษาประโยชน์สาธารณะ ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชาละเว้นหรือบกพร่องในการปฏิบัติตามข้อนี้ ให้ผู้บังคับบัญชาเหนือชั้นขึ้นไปรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ
ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ราชการของตำรวจเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามนัยคำสั่งหัวหน้า คสช. กฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ข้อบังคับ มาตรการและสั่งการตำรวจที่เกี่ยวข้อง จึงให้ทุกหน่วยจัดประชุมชี้แจงข้าราชการตำรวจในสังกัด ให้ปฏิบัติตามคำสั่ง ตร.ที่ 234/2558 เรื่องการพิจารณาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บกพร่องในการป้องกันและปราบปรามอบายมุข รวมทั้งคำสั่งอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด และให้มีการประชุมกำชับการปฏิบัติประจำทุกเดือน และจัดทำรายงานการประชุมไว้เป็นหลักฐาน ให้ตรวจสอบและปรับปรุงการมอบหมายหน้าที่และความรับผิดชอบในการปกครอง บังคับบัญชาตามนัยคำสั่ง ตร. ที่ 1212/2537 เรื่องมาตรการการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจให้สอดคล้องกับผู้รับผิดชอบในปัจจุบัน และให้จเรตำรวจ ผู้บัญชาการ ผู้บังคับการ และผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบกำกับดูแล ติดตาม ตรวจสอบดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งโดยเคร่งครัด
ด้าน พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า หลังจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องดำเนินการตามคำสั่งของหนังสือที่ประกาศผ่านราชกิจจานุเบกษา โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน สำหรับตำรวจ 17 นายที่มีชื่อย้ายตามคำสั่งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการกับเรื่องนี้อยู่แล้ว คาดว่าวันที่ 27 มิถุนายน นี้ คงจะมีรายละเอียดเพิ่มเติม ต้องรอความชัดเจนอีกครั้งว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ จะมีข้อสั่งการกับเรื่องนี้อย่างไร
ส่วนในคำสั่งที่มีการย้าย พล.ต.ต.สรไกร พูลเพิ่ม ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สมุทรสาคร เกี่ยวข้องกับปัญหาค้ามนุษย์ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ต้องขอตรวจสอบก่อน
ทั้งนี้ คำสั่ง ตร.ที่ 234/2558 เรื่องการพิจารณาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บกพร่องในการป้องกันและปราบปรามอบายมุขนั้น เป็นมาตรการกำกับดูแลและลงโทษข้าราชการตำรวจที่ละเลยปล่อยให้มีอบายมุขและค้ามนุษย์ ตามลำดับชั้น
ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ราชการของตำรวจเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามนัยคำสั่งหัวหน้า คสช. กฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ข้อบังคับ มาตรการและสั่งการตำรวจที่เกี่ยวข้อง จึงให้ทุกหน่วยจัดประชุมชี้แจงข้าราชการตำรวจในสังกัด ให้ปฏิบัติตามคำสั่ง ตร.ที่ 234/2558 เรื่องการพิจารณาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บกพร่องในการป้องกันและปราบปรามอบายมุข รวมทั้งคำสั่งอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด และให้มีการประชุมกำชับการปฏิบัติประจำทุกเดือน และจัดทำรายงานการประชุมไว้เป็นหลักฐาน ให้ตรวจสอบและปรับปรุงการมอบหมายหน้าที่และความรับผิดชอบในการปกครอง บังคับบัญชาตามนัยคำสั่ง ตร. ที่ 1212/2537 เรื่องมาตรการการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจให้สอดคล้องกับผู้รับผิดชอบในปัจจุบัน และให้จเรตำรวจ ผู้บัญชาการ ผู้บังคับการ และผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบกำกับดูแล ติดตาม ตรวจสอบดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งโดยเคร่งครัด
ด้าน พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า หลังจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องดำเนินการตามคำสั่งของหนังสือที่ประกาศผ่านราชกิจจานุเบกษา โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน สำหรับตำรวจ 17 นายที่มีชื่อย้ายตามคำสั่งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการกับเรื่องนี้อยู่แล้ว คาดว่าวันที่ 27 มิถุนายน นี้ คงจะมีรายละเอียดเพิ่มเติม ต้องรอความชัดเจนอีกครั้งว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ จะมีข้อสั่งการกับเรื่องนี้อย่างไร
ส่วนในคำสั่งที่มีการย้าย พล.ต.ต.สรไกร พูลเพิ่ม ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สมุทรสาคร เกี่ยวข้องกับปัญหาค้ามนุษย์ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ต้องขอตรวจสอบก่อน
ทั้งนี้ คำสั่ง ตร.ที่ 234/2558 เรื่องการพิจารณาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บกพร่องในการป้องกันและปราบปรามอบายมุขนั้น เป็นมาตรการกำกับดูแลและลงโทษข้าราชการตำรวจที่ละเลยปล่อยให้มีอบายมุขและค้ามนุษย์ ตามลำดับชั้น