นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวถึงผลกระทบอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ว่า กระทบระยะสั้นในเรื่องความผันผวนของตลาดเงินของอังกฤษและภูมิภาคอื่นๆ เป็นเรื่องที่มีการคาดการณ์กันไว้อยู่แล้ว ซึ่งคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะกระทบไปถึงความเชื่อมั่นของตลาดทุน เห็นว่าตลาดหลักทรัพย์ต่างๆ ในเอเชีย-แปซิฟิกมีดัชนีที่ลดลงในวันนี้ ส่วนตลาดหุ้นไทยลดลงอยู่ในช่วงร้อยละ 2-3 นั้น ถือว่าไม่มากเมื่อเทียบกับตลาดอื่นในภูมิภาค ซึ่ง ก.ล.ต. มองว่าเป็นเรื่องปกติและระบบของ SET รองรับได้ไม่มีปัญหา
อย่างไรก็ตาม แม้ผลโหวตเป็น BREXIT แต่อังกฤษและอียูต้องมีกระบวนการเจรจาเพื่อหารูปแบบการออกจากอียูอีกประมาณ 2 ปี ดังนั้น การประเมินผลกระทบระยะยาวคงต้องขึ้นกับความสำเร็จของกระบวนการดังกล่าว และขึ้นกับว่า BREXIT ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อภูมิภาคยุโรปมากน้อยเพียงใด ซึ่งผู้ลงทุนสามารถคอยติดตามความคืบหน้ากันได้
สำหรับผลกระทบระยะสั้นที่มีต่อตลาดทุนไทย ก.ล.ต.ยังคงมองว่า BREXIT เป็นเรื่องที่ไม่ได้กระทบปัจจัยพื้นฐานของบริษัทไทยโดยตรง เพราะมูลค่าการค้าไทย-อังกฤษมีสัดส่วนไม่สูงประมาณไม่เกินร้อยละ 2 ของมูลค่าการค้ารวมของไทย แต่ทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนบ้างระยะสั้น จึงขอให้ผู้ลงทุนอย่าตื่นตระหนก และขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารประกอบการตัดสินใจลงทุน
อย่างไรก็ตาม แม้ผลโหวตเป็น BREXIT แต่อังกฤษและอียูต้องมีกระบวนการเจรจาเพื่อหารูปแบบการออกจากอียูอีกประมาณ 2 ปี ดังนั้น การประเมินผลกระทบระยะยาวคงต้องขึ้นกับความสำเร็จของกระบวนการดังกล่าว และขึ้นกับว่า BREXIT ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อภูมิภาคยุโรปมากน้อยเพียงใด ซึ่งผู้ลงทุนสามารถคอยติดตามความคืบหน้ากันได้
สำหรับผลกระทบระยะสั้นที่มีต่อตลาดทุนไทย ก.ล.ต.ยังคงมองว่า BREXIT เป็นเรื่องที่ไม่ได้กระทบปัจจัยพื้นฐานของบริษัทไทยโดยตรง เพราะมูลค่าการค้าไทย-อังกฤษมีสัดส่วนไม่สูงประมาณไม่เกินร้อยละ 2 ของมูลค่าการค้ารวมของไทย แต่ทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนบ้างระยะสั้น จึงขอให้ผู้ลงทุนอย่าตื่นตระหนก และขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารประกอบการตัดสินใจลงทุน