พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรี่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่มีแจ้งเบาะแสให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าไปตรวจสอบการก่อสร้าง เวิร์ล พีช สาขาวัดพระธรรมกาย ที่อาจมีการรุกล้ำที่ดินรัฐ ในพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ว่าทราบเรื่องดังกล่าวและได้สอบถามกับอธิบดีดีเอสไอยอมรับว่ามีการร้องเรียนถึงเรื่องดังกล่าว เบื้องต้นยังไม่ได้สั่งการใด ๆ เพราะเชื่อว่าเจ้าหน้าที่รู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ทำ ใครมีหน้าที่อะไร ก็ดำเนินการตามนั้น เจ้าหน้าที่ทำงานอยู่แล้ว อย่าไปกดดัน และตนก็ไม่ได้เร่งรัด เพราะไม่อยากให้มองว่าเลือกปฏิบัติ การดำเนินคดีทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายไม่มีนโยบายพิเศษแค่ให้ทำให้เรียบร้อย ในส่วนของผู้เสียหายตนเข้าใจว่าอยากให้คดีแล้วเสร็จเพื่อได้เงินคืน
อย่างไรก็ตาม กรณีที่วัดระบุว่าหากมีหลักฐานเรื่องเงินบริจาคเพิ่มเติม 400 ล้านบาท พร้อมคืนเงินให้นั้น ตนขอหลักคิดเหมือนการขโมยรถแล้วนำรถมาคืนโดยอ้างว่าคืนแล้วไม่ผิดกฏหมาย มันเป็นไปไม่ได้ เงินที่พูดถึงก็ต้องตรวจสอบว่าเป็นเงินที่ผิดกฏหมายหรือไม่ต้องให้ความเป็นธรรมกับวัดด้วย โดยหากพิสูจน์ว่าเงินผิดกฏกมายจะคืนหรือไม่คืนก็ผิดกฏหมาย แต่หากพิสูจน์แล้วว่าเงินไม่ผิดกฏหมายคืนหรือไม่คืนก็ไม่ผิดกฏหมาย อยู่ระหว่างการตรวจสอบของดีเอสไอ สำหรับการขอหมายค้นรอบ 2 เป็นหน้าที่พนักงานสอบสวน หากพร้อมก็ทำได้ตลอด ไม่สามารถบอกล่วงหน้าได้
อย่างไรก็ตาม กรณีที่วัดระบุว่าหากมีหลักฐานเรื่องเงินบริจาคเพิ่มเติม 400 ล้านบาท พร้อมคืนเงินให้นั้น ตนขอหลักคิดเหมือนการขโมยรถแล้วนำรถมาคืนโดยอ้างว่าคืนแล้วไม่ผิดกฏหมาย มันเป็นไปไม่ได้ เงินที่พูดถึงก็ต้องตรวจสอบว่าเป็นเงินที่ผิดกฏหมายหรือไม่ต้องให้ความเป็นธรรมกับวัดด้วย โดยหากพิสูจน์ว่าเงินผิดกฏกมายจะคืนหรือไม่คืนก็ผิดกฏหมาย แต่หากพิสูจน์แล้วว่าเงินไม่ผิดกฏหมายคืนหรือไม่คืนก็ไม่ผิดกฏหมาย อยู่ระหว่างการตรวจสอบของดีเอสไอ สำหรับการขอหมายค้นรอบ 2 เป็นหน้าที่พนักงานสอบสวน หากพร้อมก็ทำได้ตลอด ไม่สามารถบอกล่วงหน้าได้