ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (13 มิ.ย.) โดยตลาดปิดลบติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง ก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 มิ.ย.นี้ นอกจากนี้ นักลงทุนมีความกังวลต่อผลการลงประชามติของอังกฤษเกี่ยวกับการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันที่ 23 มิ.ย.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,732.48 จุด ร่วงลง 132.86 จุด หรือ -0.74% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,848.44 จุด ลดลง 46.11 จุด หรือ -0.94% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 2,079.06 จุด ลดลง 17.01 จุด หรือ -0.81%
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงหุ้น ก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟดในวันที่ 14-15 มิ.ย. เพื่อจับตาว่าเฟดจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับผลการลงประชามติของอังกฤษในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ เนื่องจากหากผลโหวตบ่งชี้ว่าอังกฤษตัดสินใจออกจากสหภาพยุโรป ก็จะเกิดแรงเทขายอย่างหนักในตลาดหุ้น
ผลการสำรวจของสำนักต่างๆพบว่า ชาวอังกฤษที่มีความเห็นสนับสนุนให้อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ขณะนี้มีจำนวนมากกว่าผู้ที่สนับสนุนให้อังกฤษยังคงอยู่ในยุโรป
ทั้งนี้ ผลสำรวจของ YouGov ระบุว่า ผู้ที่ต้องการให้อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (EU) มีจำนวน 43% ขณะที่ฝ่ายที่ต้องการให้อยู่ใน EU มีจำนวน 42% ส่วนผลการสำรวจออนไลน์ของหนังสือพิมพ์ อินดิเพนเดนท์ ระบุว่า ผู้ที่เชื่อว่าอังกฤษควรออกจาก EU มีจำนวน 55% ขณะที่ผู้ที่ต้องการให้อยู่ใน EU มีจำนวน 45%
หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลงกว่า 2% หลังจากมีรายงานว่าไมโครซอฟท์ อิงค์ ประกาศซื้อกิจการ LinkedIn ด้วยวงเงิน 2.62 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นราคาหุ้นละ 196 ดอลลาร์ โดยข้อตกลงดังกล่าวได้รับการอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์จากคณะกรรมการบริหารของทั้ง 2 บริษัท และคาดว่าจะสามารถปิดข้อตกลงได้ภายในสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้น LinkedIn พุ่งขึ้นแข็งแกรงถึง 47% และยังช่วยหนุนหุ้นทวิตเตอร์พุ่งขึ้นกว่า 3% ด้วยเช่นกัน
หุ้นแอปเปิลร่วงลง 1.5% แม้ว่าแอปเปิล อิงค์ ได้จัดการประชุม Worldwide Developers Conference (WWDC) เมื่อวานนี้ ซึ่งมีการเผยโฉมโปรแกรม "สิริ" แบบปรับปรุงใหม่ รวมทั้งเปิดตัวระบบปฏิบัติการ iOS 10 และระบบปฏิบัติการ Mac ครั้งใหม่
หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุกราดยิงไนท์คลับในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ส หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิงส์ หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส และหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ส ต่างก็ร่างลงกว่า 3%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวผันผวน โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ขยับขึ้น 0.7% หุ้นทรานส์โอเชียน และหุ้นเดวอน เอนเนอร์จี พุ่งขึ้นกว่า 2% แต่หุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม ดิ่งลง 6.7% และหุ้นวาเลโร เอนเนอร์จี ร่วงลง 4.5%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ซึ่งรวมถึงราคาส่งออก-นำเข้าเดือนพ.ค., ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย. และสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์จากการปิโตรเลียมสหรัฐ (API)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,732.48 จุด ร่วงลง 132.86 จุด หรือ -0.74% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,848.44 จุด ลดลง 46.11 จุด หรือ -0.94% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 2,079.06 จุด ลดลง 17.01 จุด หรือ -0.81%
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงหุ้น ก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟดในวันที่ 14-15 มิ.ย. เพื่อจับตาว่าเฟดจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับผลการลงประชามติของอังกฤษในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ เนื่องจากหากผลโหวตบ่งชี้ว่าอังกฤษตัดสินใจออกจากสหภาพยุโรป ก็จะเกิดแรงเทขายอย่างหนักในตลาดหุ้น
ผลการสำรวจของสำนักต่างๆพบว่า ชาวอังกฤษที่มีความเห็นสนับสนุนให้อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ขณะนี้มีจำนวนมากกว่าผู้ที่สนับสนุนให้อังกฤษยังคงอยู่ในยุโรป
ทั้งนี้ ผลสำรวจของ YouGov ระบุว่า ผู้ที่ต้องการให้อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (EU) มีจำนวน 43% ขณะที่ฝ่ายที่ต้องการให้อยู่ใน EU มีจำนวน 42% ส่วนผลการสำรวจออนไลน์ของหนังสือพิมพ์ อินดิเพนเดนท์ ระบุว่า ผู้ที่เชื่อว่าอังกฤษควรออกจาก EU มีจำนวน 55% ขณะที่ผู้ที่ต้องการให้อยู่ใน EU มีจำนวน 45%
หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลงกว่า 2% หลังจากมีรายงานว่าไมโครซอฟท์ อิงค์ ประกาศซื้อกิจการ LinkedIn ด้วยวงเงิน 2.62 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นราคาหุ้นละ 196 ดอลลาร์ โดยข้อตกลงดังกล่าวได้รับการอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์จากคณะกรรมการบริหารของทั้ง 2 บริษัท และคาดว่าจะสามารถปิดข้อตกลงได้ภายในสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้น LinkedIn พุ่งขึ้นแข็งแกรงถึง 47% และยังช่วยหนุนหุ้นทวิตเตอร์พุ่งขึ้นกว่า 3% ด้วยเช่นกัน
หุ้นแอปเปิลร่วงลง 1.5% แม้ว่าแอปเปิล อิงค์ ได้จัดการประชุม Worldwide Developers Conference (WWDC) เมื่อวานนี้ ซึ่งมีการเผยโฉมโปรแกรม "สิริ" แบบปรับปรุงใหม่ รวมทั้งเปิดตัวระบบปฏิบัติการ iOS 10 และระบบปฏิบัติการ Mac ครั้งใหม่
หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุกราดยิงไนท์คลับในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ส หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิงส์ หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส และหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ส ต่างก็ร่างลงกว่า 3%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวผันผวน โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ขยับขึ้น 0.7% หุ้นทรานส์โอเชียน และหุ้นเดวอน เอนเนอร์จี พุ่งขึ้นกว่า 2% แต่หุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม ดิ่งลง 6.7% และหุ้นวาเลโร เอนเนอร์จี ร่วงลง 4.5%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ซึ่งรวมถึงราคาส่งออก-นำเข้าเดือนพ.ค., ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย. และสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์จากการปิโตรเลียมสหรัฐ (API)