เมื่อวานนี้(28 พ.ค.) พระราชธรรมนิเทศ หรือพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ไม่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาคดีความผิดฐานฟอกเงินและรับของโจรต่อพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตามที่นัดหมาย และกลุ่มลูกศิษย์วัดพระธรรมกายระดมกำลังปกป้องพระธัมมชโย ว่า ถ้าทุกคนช่วยกันรักษาศาสนาก็ไม่ยาก แต่ถ้ารักษาหน้าตาก็ยาก ระหว่างศาสนากับหน้าตานั้น คนไทยถนัดเรื่องรักษาหน้าตามากกว่า ซึ่งจะทำให้ศาสนาเสียหายมาก เป็นเรื่องที่พระพุทธทาสภิกขุกล่าวไว้ตั้งแต่เมื่อ 30 ปีก่อนแล้ว ปัญหาของวัดพระธรรมกายนั้น หากสมเด็จวัดชนะสงครามยังอยู่ ท่านจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้เพราะท่านเอาจริง
ส่วนกรณีมีข้อเสนอให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เข้ามาเป็นคนกลางในการแก้ไขปัญหานี้ พระพยอม กล่าวว่า สมเด็จวัดปากน้ำนั้น คนส่วนใหญ่มองว่าเข้าข้างวัดพระธรรมกาย แต่ถ้าท่านออกมาแล้วทำเรื่องนี้ได้สำเร็จก็จะแก้ภาพพจน์ปกป้องวัดพระธรรมกายได้ กู้เกียรติศักดิ์ศรีได้ ถ้าทุกคนยึดเอาศาสนามาก่อนหน้าตาทุกอย่างเรียบร้อย เมื่อก่อนสำนักสันติอโศกเมื่อถูกดำเนินคดีก็ยอมรับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะติดคุกก็ติด ออกมาแล้วก็ไม่ได้น้อยหน้ากว่าใคร แม้คนจะน้อยลงบ้างแต่ก็อยู่ได้จนถึงปัจจุบัน
ส่วนกรณีมีข้อเสนอให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เข้ามาเป็นคนกลางในการแก้ไขปัญหานี้ พระพยอม กล่าวว่า สมเด็จวัดปากน้ำนั้น คนส่วนใหญ่มองว่าเข้าข้างวัดพระธรรมกาย แต่ถ้าท่านออกมาแล้วทำเรื่องนี้ได้สำเร็จก็จะแก้ภาพพจน์ปกป้องวัดพระธรรมกายได้ กู้เกียรติศักดิ์ศรีได้ ถ้าทุกคนยึดเอาศาสนามาก่อนหน้าตาทุกอย่างเรียบร้อย เมื่อก่อนสำนักสันติอโศกเมื่อถูกดำเนินคดีก็ยอมรับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะติดคุกก็ติด ออกมาแล้วก็ไม่ได้น้อยหน้ากว่าใคร แม้คนจะน้อยลงบ้างแต่ก็อยู่ได้จนถึงปัจจุบัน