นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แทนที่รัฐบาลจะให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาชี้แจง กลับยังคงให้โฆษกรัฐบาลที่ขยันแสดงความไม่รู้ทางเศรษฐกิจออกมาพูด ซึ่งสภาวะเศรษฐกิจดีหรือไม่ดีประชาชนรู้สึกได้ โดยหากรัฐบาลจะหัดใช้โพลสำรวจที่เป็นกลางบ้าง ไม่ใช่โพลที่คอยแต่เอาใจ ก็จะทราบดีถึงความเดือดร้อนอย่างหนักของประชาชนในปัจจุบัน และหากรัฐบาลจะเปิดใจรับฟัง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้ข้อคิดและแนะนำตั้งแต่แรก ประชาชนก็คงไม่ลำบากถึงขนาดนี้ ความล้มเหลวของรัฐบาลแสดงให้เห็นชัดเจนที่ถึงขนาดต้องเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจทั้งชุดในกลางปีที่แล้ว และถึงแม้เปลี่ยนชุดใหม่แล้ว ประชาชนก็ยังไม่รู้สึกว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นแต่อย่างไร
ทั้งนี้ นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า หากทหารในขณะนั้นจะใช้มาตรการเข้มงวดเช่นเดียวกับปัจจุบัน ประเทศก็ยังคงสงบ และป่านนี้ก็คงจะโตได้กว่าร้อยละ 4 - 5 ทุกปี โดยนักวิชาการหลายท่านก็สงสัยว่าน่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วยกันหรือไม่ เพราะแกนนำกลุ่ม กปปส.หลายคนก็เข้ามาทำงานให้กับรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคอยสนับสนุน คสช.ตลอด ในอนาคตประวัติศาสตร์ก็คงจะได้บันทึกความจริงในเรื่องนี้ และหากจะห้ามให้ข้อมูลเท็จก็ควรจะขอให้โฆษกรัฐบาลหยุดพูดแสดงความไม่รู้ และควรเอาเวลาไปเตรียมตัวแก้ต่างคดีที่ครูสงขลาร้องว่าทำผิด พ.ร.บ.ประชามติ ปมรัฐช่วยให้เด็กเรียนเกิน 12 ปี จะเกิดประโยชน์มากกว่า
ทั้งนี้ นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า หากทหารในขณะนั้นจะใช้มาตรการเข้มงวดเช่นเดียวกับปัจจุบัน ประเทศก็ยังคงสงบ และป่านนี้ก็คงจะโตได้กว่าร้อยละ 4 - 5 ทุกปี โดยนักวิชาการหลายท่านก็สงสัยว่าน่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วยกันหรือไม่ เพราะแกนนำกลุ่ม กปปส.หลายคนก็เข้ามาทำงานให้กับรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคอยสนับสนุน คสช.ตลอด ในอนาคตประวัติศาสตร์ก็คงจะได้บันทึกความจริงในเรื่องนี้ และหากจะห้ามให้ข้อมูลเท็จก็ควรจะขอให้โฆษกรัฐบาลหยุดพูดแสดงความไม่รู้ และควรเอาเวลาไปเตรียมตัวแก้ต่างคดีที่ครูสงขลาร้องว่าทำผิด พ.ร.บ.ประชามติ ปมรัฐช่วยให้เด็กเรียนเกิน 12 ปี จะเกิดประโยชน์มากกว่า